วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

"ต้น" นฤบดินทร์ "ผมมีดาเนี่ยล อัลเวส" เป็นดวงใจ

smmonline
เขาเกิดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกครอบครัวปลูกฝังเรื่องกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ และมักพาไปชมกีฬาอยู่เสมอ จนวันหนึ่ง คุณพ่อถามว่า "จะเลือกเล่นกีฬาอะไรระหว่าง กอล์ฟหรือฟุตบอล"

คำตอบที่ได้ยินจากเด็กชายนฤบดินทร์ก็คือ "ฟุตบอล" เขาพยายามฝึกซ้อมและด้วยความสามารถของเขา ทำให้เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมโรงเรียนอัชสัมชัญธนบุรีและก้าวไปติดทีมชาติไทย เริ่มต้นสร้างชื่อด้วยการแข่งขันรายการ "Nike Cup" และยังสามารถเอาชนะทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ด้วย
teenee
เขาเริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับอยุธยา เอฟซีและเพื่อนตำรวจ ก่อที่จะถูกบีอีซี เทโรศาสน และพาทีมมังกรไฟคว้ามแชมป์โตโยต้า ลีค คัพ 2014 ก่อนที่จะย้ายมาสร้างความยิ่งใหญ่กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เขาเก็บเสื้อแข่งของทีมชาติทุกตัวที่เคยใส่ไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นชุดเยาวชนหรือทีมชาติชุดใหญ่ เพื่อเตือนสติเขาเสมอว่า "แบ็คขวาที่ชท่อว่าต้น เคยผ่านอะไรมาบ้าง"

ถั่วน้อย "ฮาเวียร์ ชิชาริโต้ เอร์นานเดซ"

siamsport
ชิชาริโต้ ถือเป็นกองหน้าอีกคนของโลกลูกหนังที่มีสัญชาตญาณในการทำประตูสูง แม้จะไม่ได้ครองบอลนาน หรือสร้างสรรค์โการสของตัวเองมาก แต่เป็นกองหน้าประเภท "ลงมาเพื่อยิง"


แต่ข้อเสียของเจ้าถั่วน้อย ก็คือ ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเกมมากเท่าที่ควร และยังเป็นคนที่มีความอ่อนไหวด้าน "จิตใจ" อีกด้วย

เมื่ออายุ 20 ปี ตอนนั้นยังค้าแข้งอยู่กับสโมสรชีวาสฯ ทีมในลีคบ้านเกิด และต้องนั่งเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง ทำให้ความมั่นใจในตัวเองลดลง และฝีเท้าเองก็ย่ำอยู่กับที่ ทั้งที่เพื่อนร่วมอาชีพรุ่นเดียวกันพัฒนาไปข้างหน้าจนแซงเขาไปได้หมดแล้ว

เขาเกิดอาการท้อแท้เป็นอย่างมาก และตัดสินใจที่จะเลิกเล่นฟุตบอล แต่อย่างไรก็ตาม ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ให้กำลังใจอยู่เสมอ คอยปลอบเมื่อเวลาที่เขาท้อและถามชิชาริโต้เสมอว่า "ฟุตบอล มันมีความหมายกับนายมากแค่ไหน"

เขาจึงลุกขึ้นสู้อีกครั้ง พยายามฝึกซ้อมให้หนัก ทุ่มเททุกครั้งเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม และสองปีต่อมา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือปีศาจแดง ก็ไปคว้าตัวเขามาร่วมทีม

"ตอนที่ผมย้ายมายูไนเต็ด ผมรู้แล้วว่า ตัวเองเป็นคนโชคดีขนาดไหน ผมดีใจที่เลือกเล่นฟุตบอลต่อไป มันเป็นประสบการณ์ล้ำค่า ที่คอยสั่งสอนเสมอมา" ชิชาริโต้ กล่าวเมื่อได้ย้ายมาเซ็นต์สัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
munjeed


เชื่อเถอะครับ หากเราทำตามความฝันที่วางไว้โดยไม่ย่อท้อ สักวัน ฝันนั้นก็จะเป็นจริง (Admin Football Dairy)

"ธีระศักดิ์ โพธิ์อัน" ผมต้องการเป็นตำนาน ที่นำความสำเร็จมาสู่เชียงราย ยูไนเต็ด

smmonline
นับตั้งแต่วันที่ ย้ายมาค้าแข้งในฐานะ นักเตะเมื่อปี 2554 จนปัจจุบันกับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน หัวใจของ “โค้ชโจ” ได้กลายเป็นสีส้มเรียบร้อย

ท่ามกลางข้อสงสัย หลังก้าวขึ้นมาเป็นโค้ชของกว่างโซ้งเมื่อช่วงปลายปี 2556 เพราะทั้งประสบการณ์ก็ไม่มี และสถานการณ์ในปีดังกล่าวทีมก็รอดตกชั้นมาหวุดหวิด

แต่ "โค้ชโจ" ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็น หลังพาทีมคว้าอันดับ 7 มาครองเมื่อฤดูกาล 2557 และกับปีนี้ที่ทีมรั้งอันดับ 9 ทำให้ล่าสุดสโมสรตัดสินใจต่อสัญญาออกไปถึงปี 2561 เรียบร้อยแล้ว

"อย่างที่รู้กันว่าสัญญาผมหมดปีนี้ สโมสรก็ยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้ผม ผมแทบไม่ต้องตัดสินใจอะไรเลย ผมไม่ได้มองตัเลขเลยด้วยซ้ำ หรือแค่เป็นกระดาษเปล่ามาผมก็พร้อมที่จะเซ็นเลยเพราะว่าผมีความสุข และที่นี่ก็เหมือนเป็นที่ที่สร้างโค้ชโจขึ้นมา” ธีระศักดิ์ เริ่มกล่าวกับ FFT TH

“ผมอยากตอบแทนที่นี่ให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลหรือผู้บริหารทั้งหมด ที่อยู่ข้างผมมาตั้งแต่ตอนที่ผมเป็นนักเตะและโค้ช จริงๆแล้วผมเป็นคนชลบุรี แต่การอยู่ที่นี่ แทบไม่ต่างจากบ้านเลยและผมก็ไม่ต้องการเปลี่ยนบ้าน แะต้องปรับตัวใหม่”
นอกจากนี้เรื่องการคว้าแชมป์ โค้ชโจยังยืนยันว่าเขาต้องการประสบความสำเร็จเพื่อเป็นตำนานของกว่างโซ้งมหาภัยให้ได้
rakball
“เชียงรายมีแผนการมากมาย ทั้งเรื่องอคาเดมีและก็มีดาวรุ่งขึ้นมาและอนาคตก็ดูน่าสนใจ และการวางรากฐานก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก”

“สำหรับผม ผมรู้ว่าทุกวันนี้ทุกคนต่างคาดหวังในทีมเชียงราย ยูไนเต็ด แต่ผมมั่นใจว่าเรามีศักยภาพมากพอที่จะประสบความสำเร็จ”

"ผมไม่อยากจะเป้นตำนานเพราะอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน แต่ผมต้องการเป็นตำนานที่นำความสำเร็จมาให้เชียงราย"

"ผมคิดว่าผมสามารถพาทีมเชียงรายเป็นแชมป์ได้ โอเค ไทยลีกมันอาจจะยากและดูไกลเกินไป แต่ในบอลถ้วยผมมั่นใจว่าเรามีโอกาสที่จะทำได้ แม้เราจะไม่มีเงินมากมายเหมือนทีมอื่น แต่เรามีสปิริตที่พร้อมจะสู้” โค้ชโจ กล่าวปิดท้าย

H/T  Fourfour Thailand

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

"ซุปเปอร์ตังค์" ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลแม่เอง

tnew
สารัช อยู่เย็น กองกลางเมืองทอง ยูไนเต็ด ผู้เป็นขวัญใจแฟนฟุตบอลชาวไทย โดยเฉพาะสาวๆ ครั้นสมัยเป็นแข้งวัยรุ่นเขามักถูกมองว่าดูเป็นเด็กเกเร... แต่ในสายตาของ วรมน อยู่เย็น แม่บังเกิดเกล้าวัยกว่า 60 ปีของเขา ไม่เคยเป็นเช่นนั้น

ครอบครัว “อยู่เย็น” เสียคุณพ่อ ซึ่งเป็นเสาหลักของบ้านไปตั้งแต่ ตัง-สารัช เพิ่งเริ่มเป็นนักฟุตบอล…ในวันสุดท้ายก่อนจากลาส่งวิญญาณคุณพ่อของครอบครัวขึ้นสรวงสรรค์ “ตัง” ที่แม้จะเป็นลูกคนที่ 2 กลับพูดกับคุณแม่เสมือนว่าเป็นลูกชายคนโตว่า “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลแม่เอง” สิ่งที่เขาเปลี่ยนไปหลังจากนั้น คือ ความเป็นผู้ใหญ่ที่มากขึ้น นิ่งขึ้น กล้าตัดสินใจทุกอย่างมากขึ้น กลายเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จทั้งกับทีมชาติและสโมสร เป็นผู้นำครอบครัวแทนพ่อโดยสมบูรณ์

ทุกวันนี้ก่อนเกม “ตัง” มักโทรหาคุณแม่ทุกครั้ง โดยเฉพาะยามที่เขารู้ว่าแม่มาดูเขาที่สนาม เขามักโทรศัพท์ สอบถามด้วยความเป็นห่วง กลัวแม่จะหลงทาง กลัวจะเข้าสนามไม่ได้ เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว จึงจะลงไปวอร์มอัพร่างกายด้วยความไร้กังวล
siamsport

H/T  Fourfour Thailand

If not, I will not give up. "อนาวิน จูจีน"

isanook
เด็กหนุ่มจากนครสวรรค์ ต้องย้ายตามครอบครัวไปยังกาญจนบุรี เรียนฟุตบอลจากโรงเรียนกีฬาอ่างทอง แต่วันหนึ่งต้องทราบข่าวร้าย เมื่อแม่ของเขา ต้องติดคุกในคดียาเสพติด

เขามีโอกาสพบแม่เพียงไม่กี่ครั้ง เพราะต้องกิน-อยู่ที่โรงเรียนประจำ ทุกครั้งเวลาเจอหน้าแม่ แม่จะพูดคำว่า "แม่ขอโทษ" เสมอ

เมื่ออายุ 18 ปี เขาถูกเชิญไปออกรายการทีวี และได้พบกับคุณแม่ เพราะมันเป็นวันที่คุณแม่ของเขาพ้นโทษออกมาพอดี
ytimg
“ทุกวันนี้ชีวิตของผมผ่านมาได้ ด้วยความรู้สึกที่อยากจะทำเพื่อแม่มาโดยตลอด  ผมพยายามร้องขอเธอไม่ให้ทำงาน แต่เธอก็ยังดื้อดึงอยากจะทำ ตามประสาคนแก่ ที่ยังอยาก ผมไม่รู้ว่าคุณแม่อาจจะยังรู้สึกผิดกับอดีตหรือไม่ แต่ผมพูดได้เลยว่า แม่ไม่ผิด ผมรู้ว่าแม่ทำเพื่อผมและครอบครัวในตอนนั้น.. ผมไม่เคยสนใจอดีตอันเลวร้ายของแม่” อนาวิน กล่าวกับทีมงาน Fourfour Thailand

เขาถูกธนาคารกรุงไทยดึงไปร่วมทีม ต่อด้วยบางกอกกล๊าสและบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขาใช้ฟุตบอล เป็นตัวช่วยให้ชีวิตเขาดีขึ้น และลบล้างอดีตที่แสนเลวร้ายสำหรับเขา

"ทริสตอง สมชาย โด" แข้งลูกครึ่งหน้าหล่อ

tnews
หากตัดนักฟุตบอลลูกครึ่งยุคโบราณกาลไล่ตั้งแต่ หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร กัปตันทีมสยาม ปี พ.ศ.2458 ที่เป็นลูกครึ่งไทย-พม่า ต่อด้วย ลูกครึ่งไทยยุโรป (ไทย-อังกฤษ) คนแรกอย่าง นายแพทย์ บุญสม มาร์ติน ตลอดจนแข้งลูกครึ่งยุคกลางอย่าง “อัลเฟร็ด” เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ ออกไปแล้ว…

ทริสตอง โด ลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส คือ นักเตะลูกครึ่ง “ยุคใหม่” คนที่ 6 ที่กำลังจะได้ลงเล่นในนาม “ทีมชาติไทยชุดใหญ่” ต่อจาก ปีเตอร์ แลง (ไทย-สวิส), สุรชาติ สารีพิมพ์ (ไทย-ลาว), ชาริล ชัปปุยส์ (ไทย-สวิส), แอนโธนี่ อำไพพิทักษ์วงษ์ (ไทย-อเมริกัน) และ มิก้า ชูนวลศรี (ไทย-เวลส์)

คงไม่ต้องเล่าสาธยายว่าเขา คือ ใคร! เพราะคงได้รับรู้กันโครมๆ ผ่านช่องทางอื่นๆ มากมาย เกี่ยวกับลูกครึ่งหน้าหล่อของ “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน คนนี้... แต่เรื่องราวของเขาในการมาเมืองไทย มีจุดเริ่มต้นแบบแปลกๆ เพราะสต๊าฟฟ์ของ “เดอะไฟเออร์ดรากอนส์” ไปสะดุดเห็นชื่อเด็กหนุ่มวัย 22 คนนี้ บน “ไทยแลนด์สู้สู้” เว็บบอร์ดฟุตบอลไทยชื่อดังที่มีการตั้งกระทู้ว่ามีแข้งสัญชาติไทยปรากฏบนเกม FM (Football Manager) กับทีม กาเซเล็ค อฌัคซิโอ้ จึงไปบอกกับ โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้อำนวยการสโมสรบีอีซี เทโรศาสน ชาวเบลเยี่ยม ที่ได้ใช้สายสัมพันธ์อันดีกับทีมในฝรั่งเศสกระชากเด็กหนุ่มผู้นี้มายังเมืองไทยเมื่อปี 2014
performgroup
ความจริง ทริสตอง โด ในวัยเด็ก... เขาเคยเป็นแฟนบอล ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในยุคที่ โรนัลดินโญ่ เพลเมคเกอร์อัจฉริยะยังคงค้าแข้งที่เมืองหลวงของแดนน้ำหอม... แน่นอนในวันที่เขาได้เขาไปชมเกมในสนามครั้งแรกมันก็ทำให้เขาตื่นเต้นน่าดู และเคยคิดฝันอยากจะเป็นนักฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศส แต่วันนี้หัวใจของเขา คือ “ช้างศึก”

“แน่นอนว่า ผมเคยมีความคิดที่อยากจะเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศส เพราะผมเติบโตที่นั่น แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่ได้คิดแบบตายตัวว่าจะต้องเล่นให้กับฝรั่งเศสเท่านั้น มันเป็นทางเลือกและจังหวะของชีวิต ซึ่งผมก็ไม่คิดว่าผมจะมีโอกาสมาติดทีมชาติไทยได้เร็วขนาดนี้เหมือนกัน แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วผมก็จะเต็มที่กับมัน” แข้งลูกครึ่งผู้พูดได้ 3 ภาษา และกำลังจะเรียนภาษาไทยเพิ่มเติม กล่าวทิ้งท้าย

H/T  BEC TERO SASANA

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สรรวัชญ์ เดชมิตร "ถ้าไม่มีผู้ชายที่ชื่อ มาโน โพลกิ้ง ผมคงไม่มีโอกาสติดทีมชาติ"

ptcdn
กองกลางตัวเก่งของแบงค็อก ยูไนเต็ด ออกมากล่าวขอบคุณ มาโน โพลกิ้ง ว่า ถ้าถ้าหากไม่มีเขา สรรวัชญ์ก็คงไม่มีโอกาสติดทีมชาติ

“ผมดีใจมากเลยนะที่ครั้งนี้ผมได้ติดทีมชาติไทย ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกนัดที่จะพบกับอิรัก คนที่สำคัญที่สุดที่ช่วยให้ผมมาถึงจุดนี้ก็คือ มาโน โพลกิ้ง และสต๊าฟฟ์โค้ชของแบงค็อก ยูไนเต็ด ถ้าไม่มีมาโน ผมคงไม่ได้กลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง”
smmonline
ทางด้าน มาโน โพลกิ้ง เฮดโค๊ชของ แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวถึงมิดฟิลด์จอมเก๋ารายนี้ว่า "แคมป์คือนักฟุตบอลที่ทำให้ผู้ชมมีความสุขและตื่นเต้น เท้าซ้ายของเขาทำได้ทุกอย่างตามสมองคิด เขาเล่นฟุตบอลได้มหัศจรรย์คนหนึ่งของเมืองไทย"

"เขาเหมาะสมที่จะถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทยและไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เชื่อได้เลยว่านั่นเกิดจากการทำงานอย่างหนักของเขา ผมมีความสุขมากที่เห็นเขาได้โอกาสจากทีมชาติไทย"

"เขาเป็นนักเตะที่มีมิติการเล่นมากมายและเทคนิคก็ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเท้าซ้ายของเขาสามารถสร้างจังหวะทำประตูและคิลเลอร์พาสให้เพื่อนเข้าทำได้บ่อยครั้ง นั่นแหละคือตัวตนของเขา"

อุ้ม ธีราทร "ผมจะทำหน้าที่ให้ดี และแสดงความตั้งใจออกมาให้เต็มที่"

s1sf
ธีราทร บุญมาทัน กล่าวขอบคุณ "ซิโก้" เกียรติศศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค๊ชทีมชาติไทย ที่วางใจให้เจ้าตัวสวมปลอกแขนกัปตันทีมในนัดที่จะเจอกับอิรักในวันที่ 8 กันายนที่จะถึงนี้

"ผมต้องขอขอบคุณพี่โก้ ที่ได้ให้โอกาสกับการได้เป็นกัปตันทีมชาติไทยอีกครั้ง ซึ่งผมจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ รวมทั้งแสดงความเป็นผู้นำออกมา ตามที่ทุกคนได้ไว้ใจผมให้ทำหน้าที่นี้"

ส่วนอาการบาดเจ็บ เจ้าตัวได้เปิดเผยว่า "หลังจากที่ผมได้ แอดี้ เชอริงเจอร์ พร้อมกับทีมแพทย์ทุกคนคอยช่วยดูแลอาการบาดเจ็บ ซึ่งตอนนี้อาการไม่น่าเป็นห่วงมากนัก คาดว่าน่าจะกลับมาซ้อมได้อีกครั้งในไม่กี่วันนี้แน่นอน"
tnews

เอล แดงดา "อิรักคือบทพิสูจน์ที่สำคัญสำหรับเรา"

roigoo
ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวเก่งของไทย ชี้ว่าการพบกับอิรักในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ในวันที่ 8 กันยายนนี้ คือบทพิสูจน์สำคัญที่จะบ่งบอกว่าไทยเราพัฒนาไปมากน้อบเพียงใด


"อิรักเป็นทีมที่ดี และถือเป็นทีมแถวหน้าของเอเชีย หลังมีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆมาตลอด ทั้งโอลืมปิดและเอเชียน คัพ และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสู้กับเขา แต่มันถือเป็นบทพิสูจน์ชั้นดีว่าตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมาที่พวกเราพัฒนาตลอดไม่ว่าจะเป็นลีกหรือทีมชาติ มันจะแสดงให้เห็นว่าเราอยู่ในระดับไหน" ธีรศิลป์ กล่าวกับ Mtutd.TV

"ผมอยากให้แฟนบอลทุกคนเข้ามาให้กำลังใจ เพราะเราเดินมาถึงครึ่งทางของการไปเล่นฟุตบอลโลกรอบต่อไปแล้ว การเล่นในบ้านเราเหลือแค่สองนัดเท่านั้น หวังว่าแฟนบอลทุกคนจะมาช่วยเชียร์ และผมจะทำเต็มที่เพื่อมอบความสุขให้กับแฟนบอลที่มาชมในสนาม"
siamsport


H/T  Fourfourtwo

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

"ไฟซอล ชาเยสเตห์" รับ ไทยมีสไตล์เหมือน "ญี่ปุ่น"

songkhlaunited
ไฟซอล ชาเยสเตห์ จอมทัพของสงขลา ยูไรเต็ด และทีมชาติอัฟกานิสถาน ยกย่องทีมชาติไทย ว่ามีสไตล์การเล่นคล้ายกับทีมชาติญี่ปุ่น เพราะรูปร่างที่เล็กแต่มีความคล่องตัวและความสามารถเฉพาะตัวสูง บวกกับทีมที่เล่นเข้าขากันเป็นอย่างดี

"ผมคิดว่าการเจอกับทีมชาติไทยมันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ ผมอยู่ที่นี่มาเกือบ 2 ปี และเกมนี้แน่นอนจะมีเพื่อนผมที่อยู่ในไทยมาดูที่สนามแน่นอน”

“เกมนี้ถือเป็นเกมทดสอบที่ดีสำหรับเรา โดยเฉพาะโค้ชที่วางแท็คติคให้เราเตรียมความพร้อมก่อนเจอกับญี่ปุ่นในวันที่ 8 กันยายนนี้ ทีมชาติไทยมีดาวรุ่งและนักกีฬาเหมือนกับญี่ปุ่น ดังนั้นแน่นอนเกมนี้จะเป็นบททดสอบที่ดีสำหรับเรา” ไฟซอล ชาเยสเตห์ กล่าว
tlcdn4

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

"แข่งกับใจตัวเอง" มุ้ยไม่สน อิรักคือใคร ขอแค่ตัวเองท็อปฟอร์มก็พอ

roigoo
หัวหอกตัวเก่งของทีมชาติไทย เชื่อว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องสนใจว่าอิรักจะเป็นยังไง ขอแค่ทุกคนทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดเท่านั้น

ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย เชื่อว่าสิ่งสำคัญสำหรับเกมกับทีมอิรัก ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกนัดที่ 3 พวกเขาไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้นนอกจากที่จะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ปัจจุบัน เหล่าบรรดาแข้งช้างศึกไปเก็บตัวกันที่จังหวัด นครราชสีมา ก่อนจะเดินทางกลับมาในวันที่ 2 กันยายน เพื่อลงแข่งเกมอุ่นเครื่องกับอัฟกานิสถานก่อนจะเจอกับสิงโตแห่งเมโสโปเตเมียในวันที่ 8 กันยายน
siamsport
"ผมคิดว่าการเก็บตัว 3 อาทิตย์ น่าจะทำให้เราพร้อมมากขึ้น เพราะเราได้อยู่ด้วยกัน ได้ซ้อมด้วยกัน และที่สำคัญน่าจะทำให้สภาพร่างกายของทุกคนพร้อมที่สุดสำหรับเกมสองเกมในต้นเดือนหน้า” เจ้ามุ้ย เริ่มกล่าว

“เป้าหมายในเกมกับอิรักแน่นอน เราต้องการสามคะแนน เพราะหนึ่งคือเล่นในบ้าน และหากเราชนะจะทำให้มีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปมีมากขึ้น การเจอกับทีมในเอเชีย มันไม่มีเกมไหนที่ง่าย สิ่งสำคัญที่สุดคือเราไม่ต้องสนใจว่าจุดอ่อน จุดแข็งของพวกเขาคืออะไร แต่เราต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง เราต้องเรียนรู้และพัฒนาต่อไป ในการสู้กับทีมในระดับเอเชีย"

นอกจากนี้ เจ้ามุ้ยยังกล่าวถึงฟอร์มของตัวเองในช่วงหลังอีกว่า"ตอนนี้มั่นใจมากขึ้นหลังทำประตูให้กับสโมสรมากขึ้น ผมคิดว่า 2-3 อาทิตย์ที่เก็บตัว น่าจะมีแท็คติคใหม่ในการเจอกับอิรัก ก็ขึ้นอยู่กับแท็คติกของพี่โก้ ว่าจะต้องทำอย่างไร"

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

มุมมองของ "บิ๊กเน" กับความสำเร็จของบุรีรัมย์

goal
นี่คือบทสัมภาษณ์ของคุณเนวิน ชิดชอบ จากทีมงาน Fourfourtwo Thailand นะครับ

นี่คือมุมมองของคุณเนวินในฐานะผู้จัดการทีม และผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในกีฬาลูกหนัง

FFT TH : เป็นเกียรติมากๆ ครับ ที่จะได้รู้ในเรื่องที่ไม่มีใครเคยรู้จาก เนวิน ชิดชอบ

เนวิน ชิดชอบ : เรื่องที่ไม่เคยรู้อะไรกัน! พี่ไม่เรื่องปิดบังอะไรนะ ชีวิตก็อยู่กับพวกนักฟุตบอลเนี่ยแหละ (หัวเราะ)

FFT TH : อยากรู้ว่าพี่เนวิน มีนักฟุตบอล 11 ผู้เล่นในดวงใจไหม?
เนวิน ชิดชอบ : อื้ม (คิด)

FFT TH : ก่อนอื่นคงต้องถามก่อนครับว่า…พี่เนวิน ชอบระบบอะไรที่สุด?

เนวิน ชิดชอบ : พี่ไม่ชอบระบบอะไรทั้งนั้น… มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ยุคสมัย และผู้เล่นที่มีอยู่ในมือ รวมถึงคู่แข่ง แต่ถ้าถามตอนนี้ ก็ต้อง 3 – 5 – 2 ที่ใช้ในปัจจุบัน

FFT TH : ชอบผู้รักษาประตูคนไหนที่สุดในโลกครับ?
เนวิน ชิดชอบ : คนเดียวเลย (ตอบอย่างมั่นใจ) จานลุยจิ บุฟฟ่อน

FFT TH : เพราะอะไรเหรอครับ?

เนวิน ชิดชอบ : โอ้โห! สมบูรณ์แบบ ครบสุด ทั้งความเป็นผู้นำ การรักษาสภาพร่างกาย มันจะมีใครบนโลกใบนี้ที่ทำหน้าที่ได้เท่าเขา วินัยก็ดี ฟอร์มการเล่นก็สม่ำเสมอ

FFT TH : เทียบกับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน?
เนวิน ชิดชอบ : พี่ว่าคนละแบบ แต่สิ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน คือ ความเป็นผู้นำ มีวินัยสูง ตั้งใจสูง อย่างศิวรักษ์ มาซ้อมก่อนคนอื่นเสมอ ดูแลร่างกายดี ไม่มีสำมะเลเทเมา แถมแท็คติกใหม่ๆ ที่โค้ชผู้รักษาประตูนำเข้ามา เขามักพร้อมเรียนรู้และมีความกระตือรือล้นตลอดเวลา

FFT TH : ถ้าเป็นกองหลังละครับ?

เนวิน ชิดชอบ : หลังสามคน... คนแรกเลย (จอห์น) เทอร์รี่ แข็งแกร่ง ดุดัน หนักหน่วง รักษาสภาพร่างกายได้ดี ยอดเยี่ยมทั้งลูกเซ็ตพีซรุกและรับ ส่วนอีกคนต้อง ดีเอโก้ โกดิน ของ แอตเลติโก้ มาดริด นี่ก็คล้ายๆ เทอร์รี่ คือ แข็งแกร่ง ดุดัน และที่สำคัญ เราแทบไม่เคยเห็นพวกนี้ พลาดง่ายๆ เลยนะ ซึ่งนี่ คือ ปัจจัยที่ทำให้ แอต. มาดริด ประสบความสำเร็จ

FFT TH : แล้วอีกคนละครับ? เปาโล มัลดินี่ รึเปล่า?

เนวิน ชิดชอบ : (หลับตา) ไม่ใช่! ตีอาโก้ ซิลวา ต่างหาก... ถ้าดูจริงๆ คนนี้ทางบอลดีมาก รูปร่างไม่ถึงกับสูงใหญ่เท่าไหร่ แต่ลูกกลางอากาศดีมาก และที่สำคัญเร็วด้วย

FFT TH : แล้วถ้าเป็นกองหลัง 3 คนของ บุรีรัมย์ ในดวงใจละครับ?

เนวิน ชิดชอบ : ก็ต้อง อันเดรส ตูเญส อันดับหนึ่งเลย
FFT TH : อันดับหนึ่งไม่ใช่ ออสมาร์ (อิบันเญส)?

เนวิน ชิดชอบ : ไม่ใช่ ลองดูซิ ในประเทศไทยจะหากองหลังคนไหน ที่มีดีกรีเท่ากับ ตูเญส ได้อีกแล้ว
บ้าง (เคยประกบทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เลโอเนล เมสซี่ มาหมดแล้ว) ลูกกลางอากาศแข็งแกร่ง หนักแน่น และที่สำคัญ เป็นกองหลังเท้าซ้าย โดยธรรมชาติของตัวรุก ส่วนใหญ่ทั่วไปเราต้องยอมรับว่ามักจะถนัดเท้าขวา มีประสิทธิภาพกับเท้าขวามากกว่า เพราะฉะนั้นกองหลังเท้าซ้ายจะได้เปรียบในการประกบกองหน้า ส่วนกองหลังอีก 2 คน ก็จะเป็นใครไปไม่ได้หรอก นอกจาก กรวิทย์ นามวิเศษ กับ ชิติพัทธ์ แทนกลาง... เด็กคนนี้ใครจะ ว่ายังไงพี่ไม่สนนะ (หมายถึง ชิติพัทธ์) แต่ถ้าลองได้มอบภารกิจอะไรไปสักอย่าง เขาจะเล่นได้ ตามคำสั่งเป๊ะ และที่ผ่านมาเขาก็ได้รับภารกิจประกบกองหน้าชั้นนำของเอเชีย มาแล้วหลายคน แล้วก็ทำได้ดี เรามีเขาเป็นตัวชน และ ตูเญส คอยซ้อน ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าใครจะผ่านได้ง่ายๆ หรอก

FFT TH : มาที่กองกลาง… วิงแบ็คขวา?

เนวิน ชิดชอบ : อารมณ์ส่วนตัวนะ… ดาเนี่ยล อัลเวส นี่ คือ สไตล์วิงแบ็คที่ชอบมาก เป็นโมเดิร์นฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตำแหน่งนี้แล้ว

FFT TH : แล้วของ บุรีรัมย์?

เนวิน ชิดชอบ : ถ้าพูดกันตรงๆ คือ… สมมุติว่า สุรีย์ สุขะ อยู่ในสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แบบ เขาจะเป็นวิงแบ็คในดวงใจในทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่วน วิงซ้าย ไม่ต้องพูดนะ รู้กันอยู่แล้วล่ะว่าใคร (ธีราธร บุญมาทัน) และไม่ต้องอธิบายด้วย

FFT TH : แล้ววิงซ้ายระดับโลกตลอดกาลที่ชอบล่ะครับ?
เนวิน ชิดชอบ : (หลับตานานอยู่พักหนึ่ง)

FFT TH : โรแบร์โต้ คาร์ลอส เหรอ?

เนวิน ชิดชอบ : ไม่ใช่ ฆอร์ดี้ อัลบา ต่างหาก เขาเป็นวิงที่เล่นเกมรุกได้มีประสิทธิภาพมาก เล่นหนึ่ง-สอง วิ่งทำทางไปตามช่อง แต่กับ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ไม่ใช่บอลสมัยใหม่
FFT TH : ตรงกลาง 3 คนละครับ?

เนวิน ชิดชอบ : ยาย่า ตูเร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้), มิกาเอล เอสเซียง, (พานาธิไนกอส) อันเดรส อิเนียสต้า (บาร์เซโลน่า) ถ้า 3 คนนี้เล่นด้วยกันก็ลองดูซิว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่ คือ สุดยอดกองกลาง ที่ใครก็เทียบไม่ได้สำหรับพี่ อย่าง ยาย่า ตูเร่ แข็งแกร่ง คุมเกมดี ยิงใกล้-ไกล ได้หมด จ่ายเยี่ยม ส่วน เอสเซียง แข็งแกร่ง ดุดัน เข้าหนัก แย่งบอลสุดยอด และ อิเนียสต้า คงไม่ต้องพูดถึง

FFT TH : ไม่มี แฟรงค์ แลมพาร์ด กองกลางจากทีมโปรดของพี่เนวิน?

เนวิน ชิดชอบ : (ส่ายหน้า)  คิดว่า แลมพาร์ด สู้ ยาย่า ตูเร่ ได้ไหมล่ะ?

FFT TH : แล้วถ้าเป็นกองกลางสามคนที่ดีที่สุดเท่าที่ทำทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มา?

เนวิน ชิดชอบ : คนแรกเลย โก ซุล กิ ไม่ต้องถามเลย นี่ คือ ยาย่า ตูเร่ ของบุรีรัมย์ เลย เป็นผู้เล่นแบบ บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ (Box - to -Box) ได้ทั้งรุกและรับ คุมจังหวะ ตอนเอเย่นต์ ส่งโปรไฟล์มา แล้วนั่งดูโปรแกรมสเก๊าท์นักเตะก็ชอบแล้ว แต่ก็ศึกษานานอยู่ อีกคนก็ จักรพันธ์ แก้วพรม แหละ จะมีใครได้.
..
FFT TH : อีกคนล่ะครับ?
เนวิน ชิดชอบ : อีกคนหนึ่ง… เรียกว่าเป็นอนาคตละกัน เพราะอีก 2 ปี นี่จะเป็นกองกลางที่ดีที่สุดในประเทศไทย สุภโชค สารชาติ ตอนนี้อายุแค่ 17 ปี เคยได้ดูเขาเล่นไหม? นี่แหละ “อีเนียสต้าเมืองไทย” อายุแค่นี้แต่เซ้นต์บอลเล่นกับ ดีโอโก้ (หลุยส์ ซานโต) และ (กิลแบร์โต้) มาเชน่า ได้ ตัวเล็ก แต่เร็ว และเคลื่อนที่ตลอดเวลา

FFT TH : กองหน้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ทำทีมมาล่ะครับ?

เนวิน ชิดชอบ : ดีโอโก้ (หลุยส์ ซานโต) เลย นี่ คือ สุดยอดของกองหน้าที่เราเคยมีมา ทั้งดีกรี และสิ่งที่เขาได้พิสูจน์กับบุรีรัมย์ทุกวันนี้ เราใช้ผู้เล่นต่างชาติเกรดดีขึ้นเรื่อยๆ นี่ก็นับเป็นเรื่องที่ดี ต่อวงการฟุตบอลไทยเหมือนกัน เพราะทีมอื่นเองก็ต้องการยกระดับตัวเองขึ้นด้วย ส่วนอีกคน คล้ายๆ กับ สุภโชค เพราะถือเป็น อนาคต แต่เด็กคนนี้อีกหน่อยจะเป็นกองหน้าที่ดีที่สุด ในประเทศไทย “เจ้าไอซ์” สิทธิโชค กันหนู คนนี้ดีกว่า อดิศักดิ์ ไกรษร เสียอีก ทั้งความกระหาย การยิงประตู และความมั่นใจในตัวเอง กองหน้าไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยง้างเท้ายิงหรอก แต่นี่จังหวะ มาก็ใส่ทันที  ส่วน การ์เมโลา (กอนซาเลซ), ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ และ 2 แฟรงค์ (อาเชียมปง และ โอฮันด์ซ่า) ไม่ใช่เลย ยังไม่ตอบโจทย์... แต่ ดีโอโก้ หรือ สิทธิโชค ก็คงไม่ใช่กองหน้าที่ดีที่สุดของบุรีรัมย์ ตลอดกาลนะ นี่แค่เฉพาะเท่าที่ทำทีมมา 5 ปี เท่านั้น

FFT TH : กองหน้าระดับโลก ที่ชอบสุดตลอดกาลล่ะครับ? โรนัลโด้ บราซิล?

เนวิน ชิดชอบ : (ยิ้ม) ไม่เลย… เอดิน เชโก้ เนี่ยแหละสุดยอดที่สุดแล้ว

FFT TH : ?????

เนวิน ชิดชอบ : กองหน้ายุโรปที่ตัวสูงใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศดี มีความเร็ว ทักษะดี เลี้ยงบอลไปกับบอลได้ดี และยังแข็งแกร่ง มันจะไปหาได้ที่ไหนอีก? ยิ่งสมัยอยู่เยอรมันกับ โวล์ฟบวร์ก นี่… พี่ชอบมาก

FFT TH : ถ้าจะหาอีกสักคนมาจับคู่กับ เชโก้?

เนวิน ชิดชอบ : เอดิสัน คาวานี่

FFT TH : หือ?

เนวิน ชิดชอบ : พี่ชอบอะไรแปลกๆ แบบนี้แหละ แต่นี่คือศูนย์หน้าในดวงใจ เป็นกองหน้าสมัยใหม่ สู้ทุกเม็ด ไฟต์ตลอด เบสิคดี และมีลูกมหัศจรรย์

FFT TH : โค้ชที่ดีที่สุดของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ โค้ชที่ชื่นชอบที่สุด?

เนวิน ชิดชอบ : ของ บุรีรัมย์ ต้อง (อเล็กซานเดอร์) กาม่า เป็นโค้ชที่มอบหมายการบ้านอะไรไปแล้ว ทำได้หมด นำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำงานหนัก หมั่นศึกษาตลอด ส่วนต่างชาติก็ เจอร์เก้น คล็อปป์ เท่านั้น

FFT TH : ไม่ใช่ โชเซ่ มูรินโญ่?

เนวิน ชิดชอบ : มูรินโญ่ เคยทำแต่ทีมใหญ่ที่มีเงินเยอะ ลองมาทำทีมแบบ คล็อปป์ ดูซิ...คล็อปป์ เนี่ยเป็นโค้ชสไตล์ไม่มีตังค์ แต่ทำให้นักเตะหลายคนเป็นซูเปอร์สตาร์ กระทั่งนักเตะเอเชียอย่าง ชินจิ คางาวะ ก็ผ่านมือ คล็อปป์ ที่ปลุกปั้นมา… ฟุตบอลแบบเขาเนี่ย “โมเดิร์นฟุตบอล” ของจริง บอลเพรสซิ่งทุกตัว ตัวใดตัวหนึ่งไม่ขยับจะเกิดพื้นที่ และช่องว่างทันที ระบบทีม คือ การเคลื่อนไหว หัวใจ คือ การเคลื่อนที่ ฟุตบอลเล่นกัน 11 คน ต้องไม่มีซูเปอร์สตาร์แค่คนเดียว

FFT TH : ปรัชญาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคสมัยของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือ เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่เพียงคนเดียว… บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ของพี่เนวิน ก็เป็นแบบนั้น?

เนวิน ชิดชอบ : (ยิ้มเล็กน้อย) เซอร์ อเล็กซ์ ใช้เงินคนอื่น ไม่ได้ใช้ตังค์ตัวเอง ส่วนพี่ต้องยึดถึงความยั่งยืนของสโมสร ความมั่นคงของทีม แต่ตราบใดที่ยังเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด… ก็ไม่ใช่เพราะระบบนี้เหรอ ที่ทำให้เป็น “5 ปี 14 แชมป์”!

FFT TH : ยังไงก็ขอรบกวนพี่เนวิน เท่านี้… ขอบคุณมากครับ

เนวิน ชิดชอบ : ได้ สบายมาก แต่… มาถามกันแบบนี้ เดี๋ยวคนก็ว่าพี่กันอีกว่ามีความคิด ชอบผู้เล่นแบบแปลกๆ (หัวเราะแบบเป็นกันเอง)
wefinn

H/T Fourfourtwo.com

เมสซี่ เจ "ผมจะพัฒนาตัวเองและพาไทยไปบอลโลก"

boxzaracing
จากเด็กน้อยที่เคยถูกพ่อตัวเองตบกะบาลเมื่อไม่ตั้งใจฝึกซ้อม วันนี้เขามีพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเกีรยติยศ ชื่อเสียง ความสำเร็จ


แต่ตัวเขาเองก็ยังยืนยันว่าเขาคือ "เจ" คนเดิมเพิ่มเติมเดี๋ยวบอก และยังมีความมุ่งมั่นและกระหายในความสำเร็จเหมือนเดิม

ตอนยังเด็ก เขาเคยเล่นให้กับทีม "ซีแอล ไฮสปีด" ทีมฟุตบอลเดินสายชื่อดังของจังหวัดนครปญม จนปี 2554 เคยไปคัดตัวที่สโมสสร ทีโอที เอสซี ก่อนถูกปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญา เพราะถูกมองว่าตัวเล็กเกินไป ก่อนที่จะโดนบีอีซี เทโรศาสน ดึงตัวไปร่วมทีม และถูกโค๊ชสมชาย ช่วยบุญชุม เรียกไปรับใช้ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 19 ปี


ปัจจุบัน "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ คือกำลังหลักของทีมชาติไทย และเขายังยืนยันคำเดินที่บอก "ผมต้องเก่งกว่านี้ ผมต้องทำให้ไทยเป็นแชมป์ในทุกๆรายการที่ลงแข่งขัน ต้องไปได้ไกลกว่านี้ และต้องไปฟุตบอลโลกให้ได้"
footballdj

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การ์รินซ่า เทพเจ้าลูกหนังบราซิล คนที่ 2

oknation
ช่วงที่เปเล่ ถูกยกย่องให้เป็น "นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก" ยังมีชายคนนึงที่ฝีเท้าและทักษะไม่น้อยกว่า "ไข่มุกดำ" เลยก็คือ "เจ้านกน้อย" การ์ริซ่า

ชายผู้มีขาซ้ายสั้นกว่าขาขวาภุง 6 เซนติเมตร ถูกฟีฟ่ายกย่องให้เป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดต่อจากเปเล่

หลายคนคิดว่าเค้าคงไม่สามารถเดินได้เหมือนคนปกติ  แต่ชายคนนี้คือผู้ที่สามารถพาทัพ "เซเลเซา" คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1962 ด้วยการทำ 2 ประตูคว่ำอังกฤษในรอบ 8 ทีม และคว่ำชิลี ในรอบ4 ทีมสุดท้าย โดยในนัดชิงชนะเลิศ แม้เจ้าตัวจะป่วยจากอาการไข้ แต่ก็ยังช่วยให้ทีมชนะ เชสโกสลาเวีย 3-1 แทนเปเล่เนื่องจากขณะนั้น เปเล่มีอาการบาดเจ็บ

“เมื่อเขายืนและเผชิญหน้าคุณ ขาของเขาดูเหมือนไปอีกทาง ขณะที่ลำตัวก็ไปอีกทาง เขาน่าจะเรียกว่าเป็นคนพิการด้วยซ้ำ แต่โอ!พระเจ้า เขาเล่นฟุตบอลได้” เมล ฮ็อปกินส์ อดีตแบ๊กซ้ายทีมชาติเวลส์ ที่เคยดวลกับ การ์รินซ่า กล่าวถึงความยอดเยี่ยมของเจ้านกน้อย

เขาทำให้คนทั้งโลกเห็น ว่าแม้ขาของเขาจะไม่เท่ากัน แต่มันไม่สามารถทำลายชีวิตของเขาได้
sportsfan88

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ไม่ย่อท้อ

fourfourtwo
เด็กจากย่านมากง ทางตอนกลางของฝรั่งเศส คลั่งไคล้ลูกหนังมาก แต่ด้วยรูปร่างที่ผอมบาง ทำให้โดนปฏิเสธจากทุกทีมที่ไปทดสอบฝีเท้าด้วย รวมถึงโอลิมปิก ลียง ทีมรักของเขา


ในวัย 14 ปี เขาไม่ยอมแพ้ ขอทดสอบฝีเท้ากับมงต์เปลลิเย่ร์ ที่มีโปรแกรมเตะกับเปแอสเช ที่กรุงปารีส ณ.ที่แห่งนั้นเอง มีแมวมองของเรอัล โซเซียดาด แอบแฝงตัวอยู่ จนดึงเจ้าหนูคนนี้มาเล่นในสเปน


เขาทะลุขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เค้นฟอร์มเก่งออกมา จนถูกแอตเลติโก้ มาดริด ทุ่มเงิน 24 ล้านปอนด์ ดึงตัวไปร่วมทีม และติดทีมชาติฝรั่งเศส เป็นที่เรียบร้อย อองตวน กรีซมันน์

ประเดิมถ้วยหูกาง

diez
ในปี 1956 ถือเป็นการกำเนิดฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค) โดยคู่ชิงรายการนี้คือ แร็งค์ สโมสรจากฝรั่งเศส พบกับ เรอัล มาดริด จากสเปน


ผลคือเรอัล มาดริด เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4-3 และถือเป็นทีมแรกที่ได้ถ้วยหูกางนี้ไปครอง
diez

@CT

eurosport
เด็กหนุ่มจากย่านฟูเอร์เต้ อปาเช่ ชุมชนแออัดที่เ๖มไปด้วยอาชญากรรม ยาเสพติด ย่านที่แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่กล้าเขาไปจัดการ ทว่าเด็กหนุ่มคนนี้ที่มีใจรักในกีฬาลูหนัง เพราะสำหรับเขามันไม่ใช่แค่เกมกีฬา แต่มันคือบทเรียนชีวิต

เขาพัฒนาฝีเท้ากับทีมท้องถิ่นจนสามารถเขาไปเป็นนักเตะเยาวชนของ โบคา จูเนียร์ และย้ายมาเล่นให้กับโครินเทียนส์ (38 นัด 25 ประตู)

ต่อมาได้ย้ายมาค้าแข้งในยุโรปกับเวสต์แฮม , แมนฯ ยูไนเต็ด , แมนฯ ซิตี้ , ยูเวนตุส โดยสร้างความยิ่งใหญ่ด้วยการช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีค , ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค  และยังพาแมนฯ ซิตี้และยูเวนตุสคว้าแชมป์ลีคได้อีกด้วย
smimg
วันนี้เขากลับบ้านอีกครั้ง เพื่อลงเล่นให้กับสโมสรที่ฟูมฟักเขามาอย่าง โบคา จูเนียร์ เมื่อเขากลับไปที่ ฟูเอร์เต้ อปาเช่ ที่นี่เขาเปรียบดังพระเจ้า เพราะเขาเปรียบเสมือนตัวแทนและความภูมิใจของที่นี่ "เอล อาปาเช่"  คาร์ลอส เตเบซ

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ยังรักเหมือนเดิม

zubzip
ย้อนไปฤดูกาล 1975-76 คือครั้งล่าสุดที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตกชั้นไปเล่นระดับลีกาสอง แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ แฟนบอลของพวกเขายังเข้ามาให้กำลังใจล้นสนามเหมือนเดิม

นี่คือพลังของแฟนบอลเสือเหลือง ในช่วงที่ทีมประสบความสำเร็จ พวกเขาจะอยู่เพื่อแสดงความดีใจ แต่วันใดที่ทีมตกต่ำ พวกเขาก็ไม่เคยทิ้งทีมไปไหน

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

@PB6


smmonline
เด็กหนุ่มาวฝรั่งเศส เข้ามาเป็นดาวรุ่งของ PSG ย้ายเข้ามาเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และหวังเป็นกำลังหลักสำคัญของปีศาจแดง แต่เขากลับต้องผิดหวังเมื่อไม่ได้รับโอกาสจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือปีศาจแดงในขณะนั้นในการลงสนามเพื่อพิสูจน์ฝีเท้าของตน
performgroup
ป็อกบาจึงตัดสินใจย้ายออกจากโรงละครแห่งความฝัน เพื่อมาค้าแข้งกับ "เบียงโคเนรี่" ยูเวนตุส และพิสูจน์ฝีเท้าให้เห็นแล้วว่า "เขาคือหนึ่งมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลก"

หลายคนมองว่าเขาคือ "นิว ซีดาน" เพราะมีทั้งเทคนิค ความเร็ว และสามารถยิงประตูได้ดี ต้องติดตามดูกัน ว่าป็อกบา จะสามารถก้าวขึ้นไปเทียบชั้นรุ่นใหญ่อย่าง "เซเนอดีน ซีดาน" อย่างที่แฟนบอลหลายๆคนหวังไว้หรือไม่

ปาดหน้าไปเฉย

smmonline
เปโดร ปีกทีมชาติสเปน ตกเป็นข่าวย้ายทีมอย่างหนาหูเป็นอย่างมาก ซึ่งข่าวออกมาว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ์แห่งศึกพรีเมียร์ลีค อังกฤษ ซึ่งทางสโมสรก็ออกมาบอกว่าสนใจในตัวนักเตะรายนี้เหมือนกัน
CFC Thailand
แต่เหมือนฟ้าผ่า โดยเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม (ตามเวลาในประเทศไทย) เชลซี เจ้าบุญทุ่มแห่งพรีเมียร์ลีค อังกฤษ ปาดหน้าคู่แข่งร่วมลีคอย่สงแมนฯ ยูไนเต็ด คว้าตัวดาวยิงเลือดกระทิงรายนี้ไปครองอย่าหน้าตาเฉย ด้วยราคา 21.1 ล้านปอนด์ (ราว 1,160 ล้านบาท)

"ผมมีความสุขมากๆที่ได้เป็นนักเตะของเชลซีเรียบร้อยแล้ว ผมขอขอบคุณทุกคนและบาร์เซโลน่าเป็นการพิเศษ ที่ทำให้ความเป็นไปได้ในการย้ายมาอยู่กับเชลซีเกิดขึ้น" เปโดร โรริดเกรซ กล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว

@GK7

เด็กจากอคาเดมี่ของ โปฮัง สตีลเลอร์ส ตั้งแต่ปี 2005 ก่อนถูกปล่อยให้ กวางจู ซังมู โดยลงสนามให้กวางจู ซังมู 52 เกมยิง 5 ประตูและถูกดึงตัวกลับไปเล่นกับ โปฮัง สตีลเลอร์ส อีกครั้ง

ปี 2010 ได้ย้ายไปค้าแข้งกับ อุลซาน ฮุนได และมีส่วนช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีคในปี 2011 และเอเอฟซี แชมป์เปี้ยน ลีค ในปี 2012
static
จากผลงานของเจ้าตัว ทำให้ เอล ญาอิช ทุ่มเงินถึง 30 ล้านบาทเพื่อคว้าตัวมิดฟิลด์รายนี้ไปเสริมทีม

หลังจากเจ้าตัวหมดสัญญากับ เอล ญาอิช ทีมยักษ์ใหญ่จากกาตาร์ เขาตัดสินใจย้ายมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีค กับบรีรัมย์ ยูไนเต็ด
clubpolball
การเข้ามาของ โก ชุล กิ ทำให้อดนกลางของ "ปราสาทสายฟ้า" แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โดยสามารถประสานงานกับ อันเดรส ตูเญซ และกิลแบร์โต มาเชน่า ได้เป็นอย่างดี

โดยผลงานล่าสุด เจ้าตัวมีทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิส ช่วยให้บุรีรัมย์กลับมาชนะ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ได้ 2-1
tnews

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558

5 การซื้อขายนักเตะที่เรียกได้ว่า "มาเร็ว ไปเร็ว"

จากข่าวที่ อาร์ดา ตูราน จะถูกส่งกลับแอตแลนติโก มาดริด เนื่องจากมีข่าวว่า ประธานสโมสร ไม่ค่อยถูกใจนักเตะชาวเติร์กเท่าไหร่ แต่โชคดีที่เป็นแค่ข่าวลือ
ซึ่งการซื้อขายนักเตะในโลกลูกหนัง ถือว่าเป็นการลงทุนที่เสี่ยงมากๆ เพราะบางคนเล่นดีกับสโมสรหรือลีคบางลีค แต่เมื่อย้ายทีมแล้ว ผลงานกับตกต่ำแบบกู่ไม่กลับ ซึ่งวันนี้เรามาดูว่า ใครบ้างจะอยู่ในรายชื่อการซื้อขายที่ล้มเหลวมากที่สุด
dailymail
1. ในปี 1980 ไคลฟ์ อัลเลน ดาวรุ่งพุ่งแรงอายุเพียง 19 ปี ของควีนปาร์ค เรนเจอร์ ถูกอาเซน่อลซื้อตัวมาร่วมทีมด้วราคา 1.25 ล้านปอนด์ (แพงมากในยุคนั้น) แต่ลงสนามให้อาเซน่อลในช่วงพรีซีซั่นได้เพียง 3 นัด ก็ต้องย้ายออกจากถิ่นไฮบิวรี่ ไปอยู่กับคริสตัน พาเลช เพื่อแลกตัวกับ เคนนี่ ซิมวั่นและพอล แบร์รอน ซึ่งฟรานซิสให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า "ผมไม่เชื่อเลยนะว่าเรื่องนี้เป็นความจริง ถ้าอาร์เซนอลต้องการเขาจริงๆ แล้วทำไมถึงไม่ซื้อมาจากคริสตัล พาเลซ ตั้งแต่แรกล่ะ?”

siamsport
2. สเตฟาน กิวาร์ช อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสในช่วงยุค 90 ซึ่งเขาเป็นกองหน้าที่ทำประตูไม่ได้เลยในศึกฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสได้แชมป์ไปครอง แต่ นิวคาสเซิ่ล ได้ไปคว้าตัวมาร่วมทีม โดยเขาทำประตูแรกให้นิวคาสเซิ่ลในเกมเจอกับลิเวอร์พลู โดยแฟนๆ "ทูน อาร์มี่" หวังว่าดาวเตะรายนี้จะช่วยทำประตูให้ทีมเป็นกอบเป็นกำหลังจากปลดล็อคตัวเองได้สำเร็ แต่หลังจากผ่านไปเพียง 4 เกม รุด กุลลิท กุนซือที่เข้ามาแทนเคนนี่ ดัลกลิช กลับปล่อยตัวให้ คิวพีอาร์ ด้วยราคา 3.5 ล้านปอนด์เท่านั้น

redarmyfc
3. "เบเบ้" ดาวรุ่งชาวโปรตุเกสถูก "ป๋า" เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของปีศาจแดงคว้าตัวมาร่วมทีมด้วยราคา 7.4 ล้านปอนด์ แต่หลังจากลงไปโชว์ฝีแข้งได้เพียง 7 นัด เขาก็ถูกส่งตัวไปให้หลายๆทีมยืมไปใช้งานไม่ว่าจะเป็น เบซิคตัส, ริโอ อาฟ และ ปากอส เดอ เฟอร์ไรรา ก่อนที่จะลงเอยด้วยการเล่นให้กับ เบซิคตัส ในลีคตุรกีเมื่อปี 2014 แต่ก็เล่นให้เบซิคตัสได้เพียงนัดเดียว ก็ต้องย้ายไปร่วมทีม กอร์โดบาร์ และลงเอยด้วย ราโย บาเยกาโน่ ในที่สุด

polball
4. โซล แคมป์เบลล์ เมื่อปี 2009 น็อตต์ส เคาน์ตี้ สโมสรระดับลีคทู สร้างความฮือฮาด้วยการคว้า โซล แคมป์เบลล์ อดีตกองหลังของอาเซน่อลและเชลซีมาร่วมทีมด้วยสัญญาถึง 5 ปี ซึ่งหลังจากเล่นไปได้เพียงไม่กี่นัด "บิ๊กโซล" ก็ประกาศอำลาทีมไปดื้อๆหลังจากที่เจ้าตัวกลัวว่าสโมสรจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้และยังพูดติดตลกอีกว่า "ทุกวันนี้สเวนยังไม่มาขอโทษผมเลยที่ดึงตัวไปอยู่กับน็อตตส์ เคาน์ตี้”

simg1
5. เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง ดาวเตะทีมชาติกานา ย้ายมาจาก พอร์ทสมัธ อยู่กับ เจนัว ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์เมื่อปี 2010 แต่หลังจากลงสนามไปไม่กี่นัด เขาก็ถูกปล่อยใเอซี มิลาน ยืมตัวพร้อมออปชั่นซื้อขาดทันที "เจนัวจับตาดูฟอร์มของบัวเต็งมาตั้งแต่ก่อนฟุตบอลโลกปี 2010 ที่แอฟริกาใต้แล้ว ส่วนมิลานเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างลำบาก เพราะพวกเขามีผู้เล่นหลายคนที่กำลังจะหมดสัญญาในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ และพวกเขาก็คงอยากได้ผู้เล่นใหม่ไปทดแทน แต่เราก็มีโอกาสดีกว่าในการคว้าตัวบัวเต็งเข้าสู่สโมสร อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาก็ถูกส่งยืมตัวไปให้เอซี มิลานใช้งานหนึ่งฤดูกาล และถ้าพวกเขาตัดสินใจเซ็นสัญญาแบบถาวรเราก็จะยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะเจนัวจะได้กำไรที่มากทีเดียวสำหรับดีลในครั้งนี้ ส่วนเขาจะกลับมาเจนัวไหมนะเหรอ? บางทีก็อาจจะเป็นไปได้นะ แต่ผมหวังว่าเขาจะไม่กลับมาอีก" เอ็นริโก เปรซิโอซี ประธานสโมสรกล่าวเมื่อครั้งเซ็น เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง ไปร่วมทีม

5 กุนซือยอดฝีมือแห่งเอเชีย

วงการฟุตบอลแถบบ้านเรา อาจจะยังไม่ถึงขั้นสากลเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆเช่น ยุโรป อเมริกาใต้ หรือแถบตะวันออกกลาง แต่การพัฒนาแบบก้าวกระโดดของวงการฟุตบอลในเอเชีย ไม่ว่าจะด้วยคุณภาพนักเตะ คุณภาพของทีมสโมสรจากลีคของประเทศต่างๆ และคุณภาพของผู้จัดการทีม
ผู้จัดการทีมหรือ "โค๊ช" คือผู้วางแท็คติก กลยุทธ์ ในการรับมือคู่แข่ง ซึ่งเปรียบเสมือน "แมทัพ" ในการรบ และนี่คือสุดยอด 5 กุนซือแห่ง เอเชีย
1. อันเก โปสเตโคกลู (ออสเตรเลีย) เขาสามารถพา เซาธ์ เมลเบิร์น คว้า 3 แชมป์ ภายในเวลาเพียง 2 ปี และยังพาทีมคว้าแชมป์ โอเชเนีย แชมป์เปี้ยน คัพ ในปี 1999 และเข้าไปเล่นในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ก่อนที่จะย้ายไปคุมทีมระดับเยาวชนและกลับมาคุมทีมสโมสรอย่าง บริสเบน โรอาร์ ในปี 2009 พร้อมนำทีมกวาดโทรฟี่แชมป์ 3 รายการตลอด 3 ปี สมาพันธ์ฟุตบอลออสเตรเลีย (FFA) จึงแต่งตั้งให้เขาเป็นกุนซือทีมชาติ และเขาได้ตอบแทนผลงานด้วยการคว้ามแชมป์เอเชียน คัพ เท่อต้นปีที่ผ่านมาและยังพาออสเตรเลียไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้านที่บราซิลเมื่อปี 2014 อีกด้วย
static
2. เกีรติศักดิ์ เสนาเมือง (ไทย) คงไม่ต้องบรรยายมากสำหรับ "กองหน้าจอมตีลังกา" ซิโก้ เกีรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งปัจจุบัน ผันตัวเองมาเป็นโค้ชให้กับทีมชาติ และได้สร้างผลงานไว้มากมายเช่นเดียวกับเมื่อตอนยังโลดเแล่นบนสังเวียนหญ้า "ซิโก้" นำความศรัทธากลับมาสู่ฟุตบอลไทยอีกครั้งด้วยการพาทัพช้างศึก คว้าแชมป์ซีเกมส์ที่เมียนร์มา เมื่อปี 2013 และต่อด้วยการคว้าอันดับ 4 ในศึกเอเชี่ยนเกมส์ที่อินซอน ประเทศเกาหลีใต้ และยังพาทีมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่แห่งอาเซี่ยน ด้วยการคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ซึ่งเขาเป็นคนแรกในอาเซี่ยน ที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ทั้งตอนที่ยังเป็นนักเตะและเตอนที่เป็นโค๊ช ล่าสุด เขาพาทัยพช้างศึกลุยฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย คว้าชัยชนะ 2 นัดติด ทำให้มีลุ้นเข้าไปเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้ายอีกด้วย

matichon
3. เกรแฮม อาร์โนลด์ (ออสเตรเลีย) อดีตกองหน้าทีมชาติออสเตรเลีย เร่ิมต้นการเป็นโค๊ชกับนอร์ทเธิร์น สปิริต ในฐานะโค้ชแอนด์เพลเยอร์ ก่อนที่จะตัดสินใจไปเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมในปี 2002 โดยในปี 2006 เขารับงานเป็นโค๊ชให้กับทีมชาติในการแข่งขัน เอเชี่ยน คัพ แต่ต่องตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการแแพ้ให้กับญี่ปุ่นและโดนปลดในที่สุด หลังจากนั้นเขารับงานคุมทีม โคส มาริเนอร์ ทีมขนาดกลางของลีค ออสเตีเลีย แต่เขาามารถนำทีมคว้าแชมป์ลีคได้เมื่อปี 2014 และโยกไปคุมเวกัลตะ เซนได ซึ่งในสายงานการเป็นโค๊ชของอาร์โนล เขาได้รับการยกย่องให้เป็น "ผู้จัดการทีมที่มีเคยหยุดยั้งการพัฒนาตัวเอง" และเป็นหนึ่งในยอกกุฯซือที่ออสเตรเลียเคยมีมา

static
4. ฟานดี้ อะหมัด (สิงคโปร์) เขาคืออดีตนักเตะที่ดีที่สุดตลอดการของสิงคโปร์ ในฐานะกุนซือ เขาพาทีมสิงคโปร์ อาร์มฟอร์ซส์ พร้อมนำทีมซิวแชมป์ลีก 2 สมัยในรอบ 3 ปี ก่อนรับบทผู้ช่วยโค้ชทีมชาติชุดแชมป์ไทเกอร์ คัพ เมื่อปี 2004 จากนั้นเขาก็ย้ายมารั้งบังเหียนสโมสรยัง ไลออนส์ 3 ปีต่อมา อะหมัดตัดสินใจรับงานคุมทีมเปลิตา รายา พร้อมนำทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดและเข้าชิงชนะเลิศอินโดนีเซีย คัพในปีแรกทุมคุมทีม ก่อนที่จะย้ายมาคุมทีมยะโฮร์ เอฟซี และทีมไลอ้อนส์ อีเลฟเวน และพา ไลอ้อนส์ อีเลฟเวน คว้าแชมป์มาเลเซีย เอฟเอ คัพ ด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นเกมรุก
sportclassic
5. โทนี่ โปโปวิช (ออสเตรเลีย) อดีตกองหลังทีมชาติออสเตรเลีย เริ่มต้นงานโค้ชด้วยการเป็นผู้ช่วยโค้ชของ ซิดนีย์ เอฟซี และ คริสตัล พาเลซ สองอดีตต้นสังกัดของตัวเอง ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือใหญ่ของ ซิดนีย์ วันเดอร์เรอส์ ทีมในเอลีก ในปี 2012 ผลงานที่ดีที่สุดของเขาคือการนำ ซิดนีย์ เอฟซี คว้าแชมป์ เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีค ในปี 2014 แบบคาดไม่ถึง
siamsport