วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

29 สิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ "เอล นินโญ่"

static.goal
1. “เฟอร์นานโด” เป็นชื่อที่แม่ของตอร์เรสเป็นคนตั้ง มีความหมายว่า การผจญภัย, ฉลาดและกล้าหาญ ครอบครัวจะเรียกเขาด้วยชื่อเล่นว่า “นานโด”
2. ปู่ของตอร์เรสพาเขาไปสนามกัลเดร่อนซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้ไปสนามใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็เป็นแฟนเดนตายของแอตเลติโกมาดริดไปเลย
3. ตอร์เรสเริ่มเตะบอลจากการ์ตูนซึบาสะ ตัวละครโปรดของเขาคือเบนจี้(วาคาบายาชิ)ที่เป็นโกล์ ตอร์เรสก็เลยเริ่มเล่นบอลจากตำแหน่งโกล์!
4. ตอร์เรสเป็นนักสะสมสติกเกอร์ตัวยง สะสมแบบมืออาชีพ แม้จะครบแล้วก็ยังเก็บซ้ำอีกเล่มไปเรื่อยๆ แต่จะไม่ยอมให้เล่มแรกไม่ครบเด็ดขาด
5. El Niño ฉายานี้อาจถูกอธิบายที่มาหลายแบบ แต่ครั้งแรกสุดคำนี้มาจากการที่ตอร์เรสยังเด็กกว่าคนอื่นในสนามแต่กล้าเล่นบอลแบบมุทะลุสุดๆ
6. ตอร์เรสชอบอ่านการ์ตูนมาก ถึงเขาจะบอกว่าอ่านแค่นิดหน่อย แต่พี่ชายของเขาเผยว่าเขายังอ่านการ์ตูนมาจนทุกวันนี้ !
7. ตอร์เรสกับโอลาย่า ภรรยาของเขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก แม้เธออายุน้อยกว่าเขา 1 ปี แต่ตอร์เรสมักจะคอยเพื่อรอกลับบ้านพร้อมเธอเสมอ
8. สมัยแอตมาดริด กุนเคยเล่าว่าตอร์เรสมีรูปภรรยารูปใหญ่มากติดที่ล็อกเกอร์ แต่พอเขาเผลอพูดเรื่องนี้ออกสื่อ ตอร์เรสก็รีบเอาออกเพราะเขิน
9.  ผจก.ของตอร์เรสเล่าว่าโอลาย่าเป็นเรียบร้อยแต่เด็ดขาด เธอตัดสินใจย้ายมาอยู่กับตอร์เรส ทั้งมาดริด ลิเวอร์พูล หรือลอนดอนอย่างรวดเร็ว
10. ตอร์เรสเคยเป็นนักเตะสเปนที่ทำประตูได้มากที่สุดในลีก้าจนบีย่าทำลายสถิติ ตอร์เรสกลับไม่คิดมากแต่โทรไปยินดีกับบีย่าเสียอีก
11.  2008 ตอร์เรสเคยฉลองประตูโดยการกอดบีย่าหนักหน่วงจนนิ้วเกือบหัก ทำให้หลังเกมบีย่าต้องสัมภาษณ์ทั้งที่พันพลาสเตอร์นิ้วกลางและนิ้วนาง
12.  สมัยอยู่แอตมาดริด แฟนๆมักจะร้องชื่อของตอร์เรสในทำนองเพลง Can’t Take My Eyes of You
13. “เทอร์รี่? เขาพยายามช่วยผมเรื่องภาษาอังกฤษมาก แต่ช่วงแรกๆไม่ว่าเขาจะพยายามหนักแค่ไหน ผมไม่รู้เรื่องสักนิดว่าเขาพูดเรื่องอะไรอยู่”
14.  ครั้งแรกที่ตอร์เรสย้ายมาลิเวอร์พูล อาร์เบลัวขอให้ตอร์เรสเซ็นทั้งบนรูปและเสื้อทีมให้ เพราะเขาเป็นแฟนตอร์เรสสมัยอยู่แอตมาดริด!
15.  ท่าโพสประจำของตอร์เรส มาจากฟรานซิสโก กิโก ดาวยิงของแอดตมาดริดที่เป็นทั้งเพื่อนและขวัญใจของตอร์เรส (โพสของกิโกเป็นที่นิยมมาก ต่อมารามอสก็เอามาใช้ แม้แต่ยูเซน โบลต์ นักวิ่งที่เร็วที่สุดในโลกก็เอามาโพสเช่นกัน)
16. โยลันดา ภรรยาของเรน่าเล่าถึงโอลาย่า “เธอเป็นคนน่ารัก เป็นคนที่หาได้ยาก และพยายามไม่ออกสื่อเพราะเธอไม่อยากกระทบกับภาพของตอร์เรส”
17.  โอลาย่า “เฟอร์นานโดเป็นผู้ชายที่เป็นที่สุดในชีวิตของฉัน เขาขี้อายและไม่ช่างพูด ฉันรู้จักเขาดีแต่ฉันก็ยังรักเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า” (อาจเคยเห็นประโยคของโอลาย่ากันในหลายๆเวอร์ชั่น แต่นี่เป็นประโยคเต็มๆจากเว็บข่าวสเปน elpais )
18. ปี 2006 ในสัมภาษณ์ก่อนเกม บีย่าบอกสื่อว่าตอร์เรสคือหน้าตาของสเปน ตอร์เรสถามเพราะไม่เข้าใจ จนบีย่าต้องอธิบายว่า ก็เพราะหล่อไง!
19. ถ้าถามอิเนียสต้า บีย่า เชสก์ เรน่า หรือมาต้าว่าถ้าเป็นผู้หญิงจะเลือกผู้ชายแบบไหน ทุกคนจะตอบว่า “เฟอร์นานโด”
20.  สมัย U16 ช่วงที่อิเนียสต้าบาดเจ็บ ตอร์เรสทำประตูและถกเสื้อที่เขียนข้อความให้กำลังใจอิเนียสต้า แต่มารู้ทีหลังว่ากล้องไม่ตัดออกทีวี ในเกมต่อมาตอร์เรสเลยใส่เสื้อเบอร์ 8 ของอิเนียสต้าแล้วทับด้วยเสื้อตัวเอง เพื่อให้กำลังใจและให้ทุกคนรู้ว่าทีมมาขนาดนี้ได้เพราะอิเนียสต้า
21. ตอร์เรสเคยเป็นกัปตันในสเปนชุดเล็กหลายรุ่น แต่เขาแทบไม่ทำอะไรเลยจนคนในทีมลืมว่าเขาเป็นกัปตัน แย่กว่านั้นคือเขาเองก็ลืมไปในบางที
22. ช่วงที่รามอสมีปัญหา รามอสเผยว่าตอร์เรสโทรมาให้กำลังใจเขาเสมอ และยังอุทิศลูกยิงให้กับรามอสหลายต่อหลายทีด้วย ครั้งนึงรามอสที่ดูอยู่เผยหลังเกมว่าเขารู้ทันทีว่าประตูนั้นตอร์เรสมอบให้กับเขา ทั้งที่ตอร์เรสไม่ได้บอกอะไรก่อน และเขาก็ดีใจมาก
23. รามอสกับตอร์เรสฉะกันดุเดือดเสมอ ถึงกับมีคนบอกว่าถ้ารามอสประกบตอร์เรสต้องโดนไล่ออกตลอด และโดนสื่อมองว่าทั้งคู่ไม่ถูกกันอยู่บ่อยๆ แต่ความจริงทั้งคู่สนิทกันมาก และเคยเผยว่ามักจะโทรคุยกันเสมอทั้งก่อนและหลังเกม แต่ก็โทษกันไม่ตกว่าใครเป็นคนผิดในเกมกันแน่
media.melty
24.ในทีมชาติ เชสก์มักจะโดนแกล้งอยู่เสมอ เชสก์เผยว่าตอร์เรสเป็นเอาจริงเอาจังและไม่เคยแกล้งเขาเลย…แต่ก็ไม่เคยช่วยเหมือนกัน (หัวเราะ)
static.goal
25. ราอูล กอนซาเลส “เฟอร์นานโดกระตือรือล้นและเข้มงวดกับตัวเองมาก คุณไม่มีทางพูดว่าเขาขี้เกียจได้ เขาเป็นคนแบบที่ทุกคนอยากจะพึ่งพิง”
26. เรน่า “ตอร์เรสเป็นน้องชายของผมเสมอตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ไม่ใช่เพราะลิเวอร์พูล แต่เพราะทุกอย่างในตัวเขาดึงดูดให้เขาเป็นที่รัก”
27. ตอร์เรสมักจะโดนเข้าใจ เช่นไม่ถูกกับคนนั้นคนนี้ ทำให้เขาพูดย้ำเสมอว่าสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือคนที่พูดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้รู้จริง
28. ตอร์เรสเป็นนักสะสมเข้าขั้นโอตาคุ และย้ำคิดย้ำทำในการสะสมมาก เขาถึงกับเรียงเสื้อที่แลกมาตามสโมสร ตามปี และตามเบอร์ ห้ามสลับเด็ดขาด เขายังเรียงดีวีดีหนังและซีดีเพลงตามตัวอักษรแรกของชื่อ เรียงรองเท้าตามสี เรียงเครื่องดื่มตามความสูงของขวดด้วย
29. "ปี 2002 “ผมไม่จำเป็นต้องยิงประตูเอง ผมแค่อยากมีส่วนร่วมเพื่อให้ทีมชนะ ไม่ต้องมีชื่อผมในสกอร์บอร์ดเพราะผมรู้ดีว่าผมทำเพื่อใครอยู่”

H/T  Temkhor

วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

แบรนด์ ชูสเตอร์ กับฉายาที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย



"แบรนด์ ชูสเตอร์" กบฎลูกหนัง
แบรนด์ ชูสเตอร์ สร้างชื่อกับ เอฟซี โคโลญจน์ ฉายาของเขาสืบเนื่อมากจาก การย้ายข้ามฟากจาก บาเซโลน่าไปเรอัล มาดริด ในช่วงต้นยุค 90 แต่อยู่ทีมราชันชุดขาวได้ไม่นานก็ย้ายข้ามฟากไปอยู่กับ แอตแลนติโก้ มาดริด คู่ปรับร่วมกรุ่งมาดริดแบบไม่มีเหตุผล

และช่วงปลายอาชีพค้าแข้งในขณะได้ย้ายกลับไปค้าแข้งกับไอเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมคู่ปรับตัวฉกาจของเอฟซี โคโลจน์

ฉายานี้ พี่แกไม่ได้มาง่ายๆแน่ =__=

วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

"10 สนามฟุตอบล" ที่สวยงามและมีเสน่ห์ของโลก

เมื่อพูดถึงสนามฟุตบอล หลายคนอาจจะนึกภาพพื้นที่เต็มไปด้วยหญ้าสีเขียวชอุ่ม เก้าอี้นั่งนับหมื่นตัว แต่!!! ยังมีสนามฟุตบอลอีกมากมายที่อยู่นอกเหนือจากนั้น และวันนี้เราไปดูสนามฟุตบอลที่ทั้งสวยงาม แปลกตา และแหวกแนวกันเลยครับ

1. สนามเดอะ โฟลท มารีน่า เบย์ ประเทศสิงคโปร เป็นสามฟุตบอลที่ "อยู่บนน้ำ" ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2006 ตั้งอยู่ที่อ่าวาริเบย์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งของสิงคโปร สนามนี้สามารถจุผู้ชมได้ 30,000 คน และยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของสะพานเฮลิกซ์ และสิงคโปรฟลายเออร์อีกด้วย
calcalist
2. สนามเอสตาดิโอ มูนิซิปัล โปรตุเกส นี่คือรังเหย้าของทีม "บราก้า" อีกหนึ่งทีมยักษ์ใหญ่ของแดนฝอยทอง สนามแห่งนี้จุผู้ชมได้ 30,000 คน แต่ที่พิเศษก็คือ สนามแห่งนี้อยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ของหุบเขา โดยในตอนสร้างนั้นได้ทำการขุดเจาะเขาเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการก่อสร้าง ซึ่งอีกฝั่งของสนามนั้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองได้อีกด้วย
re-actor

3. ช็อคเกอร์ ซิตี้ แอฟริกา สนามแห่งนี้ถูกสร้างเมื่อปี 1989 และถูกปรับปรุงใหม่เพื่อต้อนรับฟุตบอลโลก 2010 สนามแห่งนี้ถูกออกแบบให้คล้ายกับ "ฟลคาลาบาซ" ซึ่งเป็นผลไม้พื้นเมือง สนามแห่งนี่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 95,000 คน และยังเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาอีกด้วย
upic.me
4. อาดิดาส ฟุตซอล ปาร์ค กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อาจจะไม่ใช่สนามฟุตบอลที่ใหญ่โตมโหฬาร หรือจุผู้ชมได้เห็นหมื่นๆ แต่สนามนี้เป็นสนามที่แปลกคือ "มันอยู่บนด่านฟ้าห้างสรรพสินค้า" ซึ่งดูสวยงามมากยามค่ำคืน สนามนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบ่งบอกการเป็นเจ้าภาพร่วมในฟุตบอลโลกปี 2002 
upic
5. ไอดี้ สเตเดี้ยม หมู่เกาะแฟโร นี่คือสนามอีกแห่งที่สวยงาท เพราะตั้งอยู่บนเกาะ ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งที่นี่สามารถมองเห็นทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา 
pe2.s1sf
6. สนาม อ็อตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์ สเตเดี้ยม สวิตเซอร์แลนด์ เป็นสนามที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่บนเทือกเขาเซอร์แมตต์ ที่นี่ไม่มีสะแตนด์เชียร์ เพราะนั่งอยู่รอบนอกก็สามารถชมเกมส์การแข่งขันได้แล้ว อีกทั้งยังสามารถมองเห็นทิวเขาที่สวยงามอีกด้วย
img.painaidii
7. สตาดิโอ เอร์นานโด ซิเลส โบลิเวีย สร้างขึ้นเมื่อปี 1930 เป็นอีกสนามที่อยู่สูงที่สุดบนโลกเลยทีเดียว ซึ่งสนามแห่งนี้สามารถจุดผู้ชมได้ 41,000 คน เมื่อก่อนไม่ได้รับการยอมรับจาก ฟีฟ่า เพราะอยู่สูงเกินระดับน้ำทะเลที่กำหนดไว้ แต่ปัจจุบัน สนามแห่งนี้ ฟีฟ่าให้การยอมรับแล้ว
la-razon
8. ซัปโปโร โดม ญี่ปุ่น ความพิเศษของที่นี่คือ สามารถใช้แข่งทั้งฟุตบอลและเบสบอล โดยสามารถ "เลื่อนพื้นสนาม" ไปเก็บอีกฝั่งได้ (ทำได้ไงเนี่ย) สนามแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความทันสมัยและสดวกสบาย โดยเก้าอี้นั่งก็สามารถพับเก็บได้เช่นกัน
sapporo-dome

topicstock
9. คานทริด้า สเตเดี้ยม โครเอเชีย เป็นสนามเหย้าของทีม เอชเอ็นเค ริเยก้า ทีมชื่อดังจาก "โครแอต" ความสวยงามของสังเวียนคือการตั้งอยู่ระหว่างหน้าผาใหญ่กับทะเลเอเดรียติก จุคนดูได้ราว 12,600 คน ซึ่งทีมชาติโครเอเชีย ก็มีหลายครั้งที่เลือกมาเตะเกมกระชับมิตรในสนามแห่งนี้อีกด้วย
pe2.s1sf
10. สนามฟุตซอลเกาะปันหยี ประเทศไทย ที่นี่คือสนามฟุตบอลลอยน้ำ ซึ่งสื่อของประเทศอังกฤษ ยกให้เป็นสนามฟุตบอลที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในโลก โดยเมื่อก่อนถูกสร้างด้วยทุ่นลอยน้ำและพื้นเป็นไม้ แต่ภายหลังปรับปรุงให้เป็นพื้นคอนกรีต ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น แหมมมม อยากลองไปเล่นดูซักครั้งจัง
siamsport

สุดยอดไปเลย สนามแต่ละที่ อยากมีโอกาสไปเที่ยวแบบนี้บ้างจัง คงจะประทับใจไม่รู้ลืมเลยทีเดียว 


H/T  Sportsanook


วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

"เสี่ยหมี" ผู้ปฏิวัติสิงห์โตแห่งกรุงลอนดอน

independent
โรมัน อับราโมวิช เกิดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2509 ในครอบครัวชาวยิว เขาต้องเสียคุณพ่อจากอุบัติเหตุและคุณแม่จากอาการเลือดเป็นพิษ ด้วยวัยเพียง 4 ขวบ
host103.hunsa
ในช่วงชีวิตวัยรุ่น เขาถูกเกณฑ์เข้ามาเป็นทหารภาคพื้นดินของสหภาพโซเวียต หลังจากปลดประจำการ จึงย่างก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจ และเป็นพ่อค้าคนกลาง จนก้าวเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจขายน้ำมันอย่างเต็มตัว และถูกจัดอันดับให้เป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส ในปี 2006
pe2.s1sf
ในปี 2003 เค้าได้เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเชลซี และได้เปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดึงนักเตะยอดฝีมือจากทั่วสารทิศ เช่น ปีเตอร์ เช็ค , ดิดิเย่ห์ คร็อกบา , อาเยน ร็อบเบน , เดเมี่ยน ดัฟฟ์ , โจ โคล ฯลฯ การดึงยอดกุนซือเข้ามาคุมทีมไม่ว่าจะเป็น หลุยย์ ฟิลิปเป้ สโคลลารี่ , กุด ฮิสดิงค์ , หรือ โจเซ่ มูริญโย่ และพัฒนาจนเชลซีกลายเป็นสโมสรชั้นแนวหน้าในยุโรป และโรมัน ยังถือเป็นผู้เปลี่ยนแปลงวงการฟุตบอลอังกฤษไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ ตอเรสในราคา 50 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการทำลายสถิติซื้อขายแพงที่สุดในเกาะอังกฤษตอนนั้น

ในปัจจุบัน เขายังทุ่มเงินไปกับเชลซีอย่างไม่หยุด จนทำให้ "สิงห์โตแห่งกรุงลอนดอน" เป็นทีมที่แข็งแกร่งอย่างมากในขณะนี้

H/T  Wikipedia 

"ประเดิมสวย"

thairath
"The Gunners" อาเซน่อล โชว์ฟอร์มก่อนเปิดฤดูกาลได้สวย ด้วยการคว้าถ้วย เอมิเรตส์ คัพ 2015 หลังเอาชนะโรม่า ยอดทีมจากอิตาลีไป 1-0 โดยได้ประตูจาก ธีโอ วัลคอตต์ ในนาทีที่ 33 ทำให้สามารถคว้าชัยชนะได้ 2 นัดติด เก็บเป็น 13 คะแนน คว้าแชมป์ไปตามคาด

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ชีพจรลงเท้าอีกครั้ง

กลายเป็นข่าวอีกครั้ง สำหรับ อังเคล ดิ มาเรีย เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกลงปล่อยดิมาเรีย ให้กับ เปแอสเช ในราคา 46 ล้านปอนด์ จากการรายงานของฟร้องซ์ ฟุตบอล สื่อกีฬาชื่อดังของฝรั่งเศส


ดิมาเรียย้ายจากเรอัล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่จากสเปน มาร่วมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 59.4 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว แต่กลับไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งเหมือนสมัยค้าแข้งอยู่กับ ราชันชุดขาวได้

ทั้งนี้ถือว่าเป็นนักเตะสัญชาติอาเจนติน่าอีกคน ที่ไม่สามารถแจ้งเกิดที่โรงละครแห่งความฝันสำเร็จ


วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เบโกวิช สมาชิกใหม่ของเดอะบลู

up.goal
ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเปิด หลังจากฤดูกาล 2014-2015 สิ้นสุดลง ปีเตอร์ เช็ก อดีตนายด่านมือหนึ่งของเชลซีขอย้ายทีมเนื่องจากไม่อยากตกเป็นตัวสำรองของ ติโบร์ กูร์ตัวร์ ผู้รักษาประตูดาวรุ่งพุ่งแรง

หลังจากขายปีเตอร์ เช็ก ออกจากสโมสร เชลซีจึงจำเป็นต้องเฟ้นหาผู้รักษาประตูมาเพิ่ม เผื่อในกรณีที่ กูร์ตัวร์ ไม่สามารถลงทำการแข่งขันได้ โดยเป้าหมายคือ "อัสเมียร์ เบโกวิช"
domunz
เบโกวิช เป็นผู้รักษาประตูทีมชาติบอสเนีย ซึ่งได้มาค้าแข้งในเกาะอังกฤษกับ สโต๊ค ซิตี้ และโชว์ฟอร์มได้ดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถทำประตู เซาแทมป์ตัน ในวินาทีที่ 13 ของการแข่งขัน โดยเป็นจังหวะที่เบโกวิชเปิดบอลจากหน้าประตูตัวเอง ก่อนที่บอลจะกระเด้งพื้น 2 ครั้ง และลอยข้ามหัว อาเธอร์ โบรุค นายทวารของเซาป์แทมตันไปได้อย่างเหลือเชื่อ จึงทำให้เชลซี ไม่ลังเลที่จะจ่ายเงิน 8 ล้านปอนด์ เพื่อสู่ขอเบโกวิชเข้ามาสู่รั้ว สแตมป์ฟอร์ด บริดจ์

นัดแรกอย่างเป็นทางการของเบโกวิช คือทัวร์นาเม้นต์ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมป์เปี้ยน คัพ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเบโกวิช ลงมาแทนกูร์ตัวร์ ในครึ่งหลัง แต่ทำให้ทีมเสียถึง 4 ประตู สุดท้าย แพ้นิวยอร์ก เรดบลู 4-2 ซึ่งหลังจบเกม "เฮียเครียด" โซเซ่ มูริโย่ กุนซือของทีมบอกว่า "เบโกวิซยังไม่อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดของเขา เนื่องมาจากความเหนื่อยล้าจากการฝึกซ้อม และในเกมพบกับ PSG เขาจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง"

ซึ่งหลายคนยังตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเขา ว่าเขาจะดีพอรึเปล่ากับการเป็นนายด่านของสิงห์บลู แต่เวลา และตัวเขา จะเป็นผู้พิสูนจ์เอง

H/T  Siamsport

งานเข้า !!!!!

Sarahsmodernbites
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ศาลอาญากรุงเทพได้ตัดสินให้ "พัทยา เอฟซี" เป็นฝ่ายชนะคดีในการฟ้องร้องเอาความผิดกับ "บังยี" นายวรวี มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ นายองอาจ ก่อสินค้า ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีค ฐานปลอมแปลงเอกสารการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลไทย เมื่อครั้งที่ผ่านมา

โดยศาลตัดสินให้จำเลยทั้งสองมีความผิดจริง และให้ลงโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 6,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยกระทำความผิดใดมาก่อน จึงลดโทษ 1 ใน 4 เหลือ จำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับ 4,000 บาท

ในส่วนนาย ณฐภณ ปัญหาคณานุกูล ประธานสโมสร พัทยา เอฟซี ซึ่งเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง กล่าวว่า "ผมพยายามทำเพื่อสมาชิกทุกคน และวันนี้ผมทำสำเร็จแล้ว ซึ่งทุกศาลผมแพ้มาตลอด แต่วันนี้ผมชนะ แต่ผมยังเกรงว่าคนอื่นจะมองเราไม่ดี"

ล่าสุด ความเคลื่อนไหวของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอล โดยนายนรินท์พงศ์เผยว่า ยอมรับในคำตัดสินของศาลที่ออกมา อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ยังไม่ตกในฐานะเป็นจำเลยและยังมีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาได้

Gianluigi Buffon

จานลุยจิ บุฟฟ่อย หรือ "จีจี้" เกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม 1978 เขาเกิดในครอบครัวของนักกีฬา โดยมีคุณพ่อและคุณแม่เป็นนักกรีฑา และน้องสาวของเขาอีก 2 คนยังเป็นนักวอลเล่ย์บอลทีมชาติอิตาลี อีกด้วย

จีจี้ เป็นอีกหนึ่งผู้รักษาประตูฝีมือดีอันดับต้นๆของโลก ปจุบันค้าแข้งอยู่กับโสมสร ยูเวนตุส ในลีคกัลโซ่ ซีเรียอา อิตาลี
Football Vintage
บุฟฟ่อน เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้เล่นเยาชนของ ปาร์ม่า ในวัย 17 ปี ก่อนที่จะถูก ยูเวนตุส ดึงมาร่วมทีมในปี 2001

ในปี 2006 ยุเว่ ถูกปรับให้ตกชั้นไปเล่นใน ซีเรีย บี ลีครองของอิตาลี จากคดีล้มบอล แต่ด้วยความจงรักภักดีต่อสโมสร เขาปฏิเสธการย้ายไปร่วมทีม เอซี มิลาน เพื่อขออยู่ค้าแข้งให้ยูเวนตุส ต่อไป โดยเขาให้เหตุผลว่า "แน่นอน ผมมีโอกาสย้ายไปเล่นให้กับทีมที่ยิ่งใหญ่อย่าง เอซี มิลาน แต่การเล่นในซีเรีย บี ถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของผม และผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ผมตัดสินใจถูกแล้ว ยูเวนตุส สร้างให้ผมเป็นแชมป์โลก ดังนั้นผมจึงเป็นหนี้บุญคุณของพวกเขา"
bacilligen
บุฟฟ่อน ยังเป็นนักเตะที่ไม่ยอมทิ้งทีมไปไหน อย่างเช่นเพื่อของพวกเขาอย่าง อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่, พาเวล เนดเวด, ดาวิด เทรเซเกต์ หรือเมาโร คาโมราเนซี่ 

และเขายังเป็นนักเตะคนที่ 3 ที่เคยเล่นฟุตบอลโลกถึง "5 สมัย" (1998, 2002, 2006, 2010 และ 2014) ปัจจุบันบุฟฟ่อนอายุ 37 ปี 
Footbaill Vintage
ถึงแม้อายุจะเกือบ 40 แล้ว แต่บุฟฟ่อนยังรักษามาตรฐานการเล่นและสภาพร่างกายของเขาเป็นอย่างดี ไม่แน่ ฟุตบอลโลกครั้งหน้า เราอาจจะได้มีโอกาสเห็นเขาบนสังเวียนหญ้าพร้อมกับเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสคร์ที่ลงเล่นฟุตบอลโลกถึง 6 สมัย

H/T  Football Vintage  ,  .Wikipedia


วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

จุดกำเนิดแห่ง Adidas และ Puma

Adidas และ Puma สองแบรนด์รองเท้ายักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลในแวดวงกีฬา แต่ทราบกันไหมครับว่าจริง ๆ แล้วทั้ง Adidas และ Puma นั้นเกิดจากเรื่องราวที่แสนขมขื่นของพี่น้องชาวเยอรมันตระกูลดาสเลอร์ 2 คนชื่อ Adi (แอดดิ) และ RudI (รูดิ)
verminososporfutebol
sneakerhistory
ในเมืองแฮร์โซเกเนารัก ประเทศเยอรมัน ปี 1920 อดอล์ฟ ดาสเลอร์ เป็นชายหนุ่มเสียงนุ่มผู้คลั่งไคล้กีฬา เขามักใช้เวลาอยู่กับการออกแบบรองเท้าภายในห้องทำงานของตัวเอง ขณะที่ รูดอล์ฟ ดาสเลอร์ เป็นเซลส์แมนผู้นิยมเข้าสังคม โดยทั้งสองเริ่มต้นทำธุรกิจผลิตรองเท้าด้วยกันภายใต้ชื่อว่า ดาสดลอร์

ในเวลาไม่นาน รองเท้ายี่ห้อ ดาสเลอร์ ก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและทำยอดขายได้มากกว่า 2 แสนคู่ต่อปี 
sportshoes
ต่อมาทั้งคู่มีเรื่องบาดหมางใจกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว การเมือง หรือปัญหาอื่นๆ ทำให้รูดี ออกมาตั้งแบร์นผลิตรองเท้าเป็นของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า "Ruda หรือ Puma" ในปัจจุบัน ขณะที่ แอดดิ ใช้ชื่อว่า "Adidas" ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างสูงในตลาดรองเท้ากีฬาในขณะนั้น 
besportier
ต่อมาในปี 2007 Puma ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อกลุ่มบริษัท PPR จากฝรั่งเศส ได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท แต่ แฟรงค์ ดาสเลอร์ หลานชายของ รูดิ ก็ยังคงเป็น 1 ในบอร์ดบริหารของทั้ง Puma และ Adidas ด้วย
ออกจะเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับครอบครัวของสองพี่น้อง ที่ต้องมาขัดแย้งกันเองเป็นเวลากว่า 60 ปีนะครับ ทั้งที่ทั้งคู่ต่างมีความสามารถทำให้แบรนด์ของตัวเองเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและทำรายได้มหาศาลเช่นนี้ และหากไม่มีเรื่องบาดหมางกัน ใครจะรู้ว่าบางทีเราอาจมีโอกาสได้ใส่รองเท้ากีฬาคุณภาพดีที่ชื่อ “ดาสเลอร์” ก็เป็นได้.

ST8 กัปตันผู้ยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พลู

"สตีวีจี" หรือ สตีเว่น เจอร์รอร์ด เกิดวันที่ 30 พฤษภาคม 1980 ที่เมืองลิเวอร์พลู ประเทศอังกฤษ เขาชื่นชอบการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างมาก และยังเป็นแฟนลิเวอร์พลูตัวยงเลยด้วย โดยเจอร์ราร์ดเข้าร่วมทีมเยาวชนของลิเวอร์พลูตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เริ่มเล่นในตำแหน่งมิดฟิลล์ ติดทีมชุดใหญ่ของลิเวอร์พลูตั้งแตปี 1998-1999 และได้เป็นกัปตันทีมของลิเวอร์พลูตั้งแต่ฤดูกาล 2003-2004
topicstock.pantip
ในฤดูกาล 2004-2005 เขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับลิเวอร์พลู ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค โดยชนะ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่จากอิตาลี โดยนัดนั้นลิเวอร์พลู โดนนำไปก่อน 3-0 ในครึ่งแรก แต่ในช่วงครึ่งหลังสามารถตีเสมอได้ และชนะในการดวลจุดโทษไปในที่สุด ถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาภายใต้เสื้อหงษ์แดง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถพาลิเวอร์พลูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีคได้เลย
บอลผล
topicstock.pantip
ในฤดูกาล 2013-2014 เป็นปีที่ลิเวอร์พลูใกล้เคียงกับการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีคมากที่สุด โดยตอนนั้น ลิเวอร์พลูมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีค หากว่าชนะเชลซีในบ้านได้ แต่จังหวะที่เจอร์ราร์ดจับบอลหลุดจากเท้า แล้วพยายามจะวิ่งไปเพื่อเก็บบอลมาเล่น แต่เจ้ากรรมดันลื่น จนทำให้ถูกเดมบา บา ฉกบอลเข้าไปยิงซุกก้นตาข่าย และทำให้ลิเวอร์พลู ชวดแชมป์พรีเมียร์ลีค โดยถูกแมนซิตี้ ปาดหน้าเข้าป้ายเป็นแชมป์อย่างน่าเจ็บปวด
i.ytimg
โดยภายหลัง เจอร์ราร์ด เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า "มันสร้างความเจ็บปวดให้ผมจนวันตาย คงไม่มีวันไหนไม่คิดถึงมัน ผมมีความทรงจำดีๆมากมายที่ลิเวอร์พลู แต่เหตุการณ์นั้นมันเป็นความเจ็บปวดที่ผมไม่มีวันลืมเช่นกัน"
img.bleacherreport
ปัจจุบัน เจอร์ราร์ด อำลาลิเวอร์พลู ย้ายไปเล่นให้กับ แอลเอ แกแลกซี่ ทีมดังในลีคสหรัฐอเมริกา
i.dailymail
แต่ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนในโลก แต่เชื่อว่าเขายังอยู่ในใจแฟนบอลลิเวอร์พลูตลอดไป

H/T  Football vintage  ,  Bomclassic  ,  Wikipedia

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สิ้นสุด "พรีเดเตอร์" นักล่าบนสังเวียนหญ้า

เคร็ก จอห์นสตัน อดีตนักเตะลิเวอร์พลู ได้ผุดไอเดียหลังจากเลิกเล่นฟุตบอลไปแล้ว โดยการออกแบรองเท้า รูปทรงที่ดูแปลกใหม่ และนำไปเสนอบริษัทผู้ผลิตอุปกรร์กีฬายักษ์ใหญ่หลายๆที่ แต่โดนปฏิเสธอย่างไม่ใยดี
independent
เขาจึงเชิญชวนเพื่อนในทีมชาติเยอรมันอย่าง ฟร้านซ์ เบคเค่นบาวเออร์, คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ และพอล ไบรท์เนอร์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์โปรโมทรองเท้าตัวนี้

ต่อมา "อดิดาส" มีความสนใจในตัวรองเท้ารุ่นนี้ พร้อมกับให้ส่วรแบ่ง 2% จากยอดการขายทั้งหมด

นั่นคือจุดเริ่มต้นของ "อดิดาส พรีเดเตอร์" และเริ่มวางจำหน่ายในช่วงฟุตบอลโลกปี 1994 และมีวิวัตนาการของรองเท้ารุ่นนี้มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Adidas Predator Rapier , Adidas  Predator Touch (ช่วงฟุตบอลยูโร 1996) , Adidas Predator Accelerator เป็นต้น
i.ytimg
cdn.soccerbible
แต่น่าเสียดายที่ความคลาสสิคตอด 20 ปี ได้สิ้นสุดลง เมื่อ อดิดาส ประกาศเลิกผลิตรองเท้าสตั๊ดรุ่นพรีเดเตอร์ เพื่อเปิดให้รูปแบบและเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาแทน
igetweb
H/T  Epopclub  ,  Wikipedia

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Nike Ordem ลูกฟุตบอลที่ใช้แข่ง Barclays Premier League 2014-2015

Nike ผู้ผลิตสินค้ากีฬาชื่อดัง เปืดตัวลูกฟุตบอลที่จะใช้แข่งในศึกพรีเมียร์ลีค อังกฤษ ที่มีชื่อว่า Nike Ordem (ไนกี้ ออร์เดม) ซึ่งเป็นลูกฟุตบอลที่มีนวัตกรรมใหม่ที่ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์
siamboots
ไนกี้ออร์เดม ได้ทำการเพิ่มสมรรถนะของลูกฟุตบอล เพื่อให้ผู้เล่นสามารถควบคุมจังหวะของลุกฟุตบอลได้ดียิ่งขึ้น  ด้วยการเพิ่มคุณสมบัติการสัมผัสลูกฟุตบอลที่มั่นคงจากเทคนิคการตัดเย็บชิ้นส่วนต่างๆเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน พร้อมกับการลอยตัวในอากาศได้ดีจากเทคโนโลยี Aerow Trac และเพิ่มการมองเห็นได้ง่ายจากเทคโนโลยี Nike RaDar
gadgets.siamsport
ไนกี้ออร์เดมได้รับการพัฒนาและออกแบบเพื่อมอบความรู้สึกในการสัมผัสบอลที่เป็นธรรมชาติและตอบสนองต่อการเตะได้ดียิ่งขึ้น โดยที่ตัวลูกฟุตบอลถูกตัดเย็บจากแผ่นหนัง 12 ชิ้น โดยมีชั้นรองรับใต้พื้นผิวอีก ชั้น ซึ่งผิวชั้นนอกถูกห่อหุ้มด้วยโพลีเอสเตอร์ผสมและใช้ถุงลมที่ผลิตจากคาร์บอนลาเท็กซ์ ขณะเดียวกันมี   เทคโนโลยี Aerow Trac บริเวณร่องบากบนตัวลูกฟุตบอล เพื่อเพิ่มการเสียดทานในจับถือของผู้รักษาประตูและช่วยการควบคุมไหลของอากาศให้ลูกฟุตบอลมีวิถีโค้งและลอยอยู่ในอากาศได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับสร้างความสมดุลและเคลื่อนที่ในอากาศให้บอลพุ่งสู่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ผิวหนังชั้นนอกของออร์เดม บอลยังมีเทคโนโลยี Nike RaDar เพื่อทำให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นลูกฟุตบอลได้ดียิ่งขึ้น


สมชาย ทรัพย์เพิ่ม เจ้าของฉายา "มาราโดน่าเมืองไทย"

สมชาย ทรัพย์เพิ่ม อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย โด่งดังจากการเล่นฟุตบอลที่ประเทศญี่ปุ่น กับสโมสร คอสโม่ ออยล์ ในช่วงปี 2532-2533 จนได้รับฉายาว่า "มาราโดน่าเมืองไทย"
siamrath

โดยหลังจากการเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ สมชาย ทรัพย์เพิ่ม ได้ไปคุมทีมขององค์การโทรศัพท์ 4 ปี ก่อนที่จะโยกมาคุมทีม ทีโอที เอสซี 
ballthaifc

ในช่วงที่คุมทีโอที เอสซี โค๊ชสมชายถูกแฟนบอลบางส่วนวิจารณ์อย่างหนักกับการแต่งตัวใส่กางเกงยีนส์ขาดๆมายืนคุมทีมข้างสนามของแกทีดูไม่เรียบร้อย จนทำห้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชี่ยลอย่างกว้างขวาง
mpics.manager
i.bug-a-boo

โค๊ชสมชาย ยังสร้างความฮือฮาด้วยการเปลี่ยนตัวลงมาเป็นผู้เล่นของทีโอที เอสซี แทน ภูดิท เนียมคง ในนาทีที่ 78 ในเกมส์ไปเยือนบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ทำให้ถูกบันทึกสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุมาที่สุดที่ลงเล่นใน ไทยพรีเมียร์ลีค ด้วยอายุ 51 ปี 7 เดือน 25 วัน
footballvintage
ปัจจุบัน โค๊ชสมชายถูกทีโอที เอสซี ปลดออกจาตำแหน่งผู้จัดการทีมแล้ว สาเหตุเนื่องมาจากที่ทีมทำผลงานในฤดูกาลนี้ไม่ดีนัก ด้วยผลงานทีมที่ผ่านไปแล้ว 15 นัด ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 11 ทำให้อาจจะตกชั้นไปเล่นในดิวิชั่นหนึ่งในฤดูกาลหน้าอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม โค๊ชสมชาย ทรัพย์เพิ่ม ถือเป็นกุนซือฝีมือดีอีกคนของประเทศไทย

H/T  Football Vintage , Wikipedia

Roberto Carlos ซ้ายสั่งลุย

Roberto Carlos da Silva หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ โรแบร์โต คาร์ลอส อดีตแบ็คซ้ายทีมชาติบราซิล และเรอัล มาดริด 
static.tlcdn1
คาร์ลอส ถือเป็นแบ็คซ้านที่ดีที่สุดของโลกคนหนึ่ง ถึงแม้เค้าจะตัวเล็ก แต่สิ่งที่ทดแทนคือความแข็งแกร่ง ความเร็ว และพละกำลังในการยิงลูกฟรีคิกอันหนักหน่วง 

คาร์ลอส เกิด 10 เมษายน 1973 ที่เซา เปาโล ประเทศบราซิล โดยสามารถแจ้งเกิดกับสโมสร พัลเมรัส ในฤฤดูกาล 1992-1994 ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับอินเตอร์ มิลาน ในฤดูกาล 1995-1996 และย้ายมาสร้างชื่อเสียงกับเรอัล มาดริด ในปี 1996-2007 

โดยคาร์ลอส มีเอกลักษณ์ตรงความเร็ว ความคล่องตัว และลูกฟรีคิกที่หนักหน่วง ชนิดที่เล่นงานผู้รักษาประตูระดับโลกหลายคนจนเสียท่ามาแล้ว
9t
คาร์ลอส ประสบความสำเร็จมากมายไม่ว่าจะทั้งในระดับทีัมชาติหรือสโมสร ไม่ว่าจะเป็นการพาบราซิลคว้าแชมป์โลก คอนเฟอเดอเรชั่นคัพ หรือโคปปา อเมริกา และยังสามารถพาเรอัล มาริดกวาดแชมป์แทบทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์เปี้ยนลีค ลาลีก้า หรือสเปนนิช ซุปเปอร์ คัพ 
footballtop
ที่มาของฉายาแบ็คซ้านตีนระเบิด ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เนื่องจากการยิงฟรีคิกของคาร์ลอส เป็นการยิงแบบ "เต็มข้อ" บอลพุ่งเหมือนจรวด จากสถิติที่เคยวัดได้ ลูกยิงของคาร์ลอสนั้นมีความเร็วถึง 120 - 150 กิลโลเมตร/ชั่วโมงเลยทีเดียว

"ลูกยิงแห่งความทรงจำ Banana Kick" ในปี 1997 การแข่งขันฟุตบอล Toumoi de France ที่ฝรั่งเศสเจอกับบราซิล โดยเป็นจังหวะที่บราซิลได้ฟรีคิกระยะประมาณ 35 เมตร (เกือบๆครึ่งสนาม) ซึ่งคาร์ลอส เป็นผู้อาสาเตะฟรีคิกลูกนั้น ซึ่งด้วยการยิงที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยการถอยมาประมาณ 10 กว้า แล้วซอยเท้าเข้าไปยิงอย่างเต็มข้อ บอลพุ่งโค้งหนีกำแพง จนดูเหมือนจะหลุดออกจากนอกกรอบไปแล้ว แต่บอลเจ้ากรรมดันโค้งเข้ามาเบียดเสาเข้าไปชนิดที่ ฟาเบียง บาร์เตส ผู้รักษาประตูทีมชาติฝรั่งเศสได้แต่ยืนมอง
2.bp.blogspot
ถึงแม้วันนี้ คาร์ลอส จะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพไปแล้ว แต่เชื่อว่าหลายๆคนยังคงจดจำลูกยิงมหาประลัยซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี